นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ซินเน็ค (ประเทศไทย)หรือ SYNEX คาดว่า รายได้รวมปี 51 อาจปรับลดลง 1-2% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้จะมีรายได้เติบโต 8-10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากการเจรจาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าบางประเภท เช่น โน๊ตบุ๊ค เลื่อนไปจากที่ดาดว่าจะตกลงได้ก่อนไตรมาส 2/51 หรือไตรมาส 3/51 มาเป็นไตรมาส 4/51 ทำให้ยอดขายที่จะเข้ามาน่าจะไปรับรู้รายได้ในปีหน้า
แต่อย่างไรก็ตาม จากสินค้าที่เลื่อนดังกล่าวจะส่งผลดีต่อยอดขายและรายได้ในปีหน้าที่จะปรับเพิ่มสูงขึ้นมามีอัตราการเติบโต 10-12% สวนทางกับการเติบโตของธุรกิจไอทีที่ปีหน้าจะชะลอลงเหลือเติบโต 5-8% เท่านั้น เพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ แต่การที่บริษัทยังเติบโตได้เนื่องจากให้ความสำคัญการหลังการขาย และเน้นเลือกแบรนด์ที่ได้รับความนิยม ทำให้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น
อีกทั้ง เชื่อว่าแม้แนวโน้มเศรษฐกิจและธุรกิจไอทีจะชะลอตัว แต่เชื่อว่าความต้องการสินค้าประเภทโน๊ตบุ๊คยังมีอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากงานคอมมาร์ท ไทยแลนด์ 2008 ที่ทำรายได้ส่วนใหญ่มาจากสินค้าประเภทดังกล่าวสูงมาก นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทยังมีแผนขยายช่องทางการจัดจำหน่ายด้วย โดยคาดว่าโน๊ตบุ๊คจะสร้างรายได้เข้ามาประมาณ 1.5 พันล้านบาท ขณะที่กำไรก็ไม่น่าจะต่ำกว่าปีนี้แน่นอน เพราะปกติสินค้ารุ่นใหม่มีมาร์จิ้นสูงอยู่แล้ว
"ผมมองสถานการณ์ในปีหน้าที่เกิดจากเศรษฐกิจชะลอตัวและปัญหาวิกฤตอาจจะทำให้ผู้บริโภครีรอการซื้อไปบ้าง และอาจจะกระทบต่อภาพรวมของอุตสาหกรรม เราก็คงจะต้องแบ่งรับแบ่งสู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เราไม่กลัว เพราะการที่เรามีสินค้าใหม่ที่ตอบสนองกับผู้ใช้โดยเฉพาะโน๊ตบุ๊ค HP และการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ทำให้เรายังเติบโตได้อย่างแน่นอนในปีหน้า ส่วนสินค้าเดิมคงจะไม่โตเท่าไหร่"นายสุพันธุ์ กล่าว
นายสุพันธ์ กล่าวต่อว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะทยอยเข้าซื้อหุ้นคืน หลังจากที่คณะกรรมการบริษัทอนุมัติวงเงิน 60-70 ล้านบาท เพื่อซื้อหุ้นในสัดส่วนไม่เกิน 8.80% ของทุนจดทะเบียน โดยคาดว่าจะเห็นการทยอยซื้อในช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้
"โดยส่วนตัวก็สนใจอยากจะเข้าไปซื้อหุ้นบริษัทเช่นกัน เพราะพื้นฐานบริษัทที่แข็งแกร่ง และนโยบายในการจ่ายปันผลที่เชื่อว่าจะสามารถจ่ายได้อย่างแน่นอนถึงแม้รายได้อาจจะลดลงเล็กน้อยก็ตาม"นายสุพันธุ์ กล่าว