ศาลอาญานัด 22 ม.ค.52 ฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์กรณีที่ บมจ.ทีพีไอโพลีน(TPIPL) ยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด พร้อมทั้ง นัดไต่สวนพยานเพิ่มอีก 5 ปาก กรณีสืบหาทรัพย์สินของ TPIPL
"ศาลเพิ่งได้รับคำสั่งศาลอุทธรณ์วันนี้ แต่เนื่องจากกรณีเป็นการบังคับคดีอาญา การอ่านคำสั่งจึงต้องกระทำต่อหน้ากรรมการบริษัทจำเลยที่ 1 ซึ่งศาลยังไม่ได้ส่งหมายแจ้งให้อัยการโจทก์และกรรมการบริษัทจำเลยที่ 1 ทราบ ขณะที่อัยการแถลงยังติดใจที่จะนำสืบพยานในส่วนของกรรมการบริษัทจำเลยที่ 1 อีก 5 ปาก โดยจะไต่สวนให้เสร็จภายใน 1 นัด ดังนั้นศาลจึงนัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์พร้อมกับนัดไต่สวนพยานในวันเดียวกันที่ 22 มกราคม 2552 เวลา 09.00 น." คำสั่งศาล ระบุ
ในวันนี้ ศาลอาญานัดไต่สวนสืบหาทรัพย์สิน TPIPL ซึ่งมีนายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ เป็นประธานผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการในคดีที่มีคำพิพากษาไปเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.50 ให้จำคุกนายประชัย และนายเชียรช่วง กัลยาณมิตร กรรมการบริหาร บมจ.สเติร์น สจ๊วต(ประเทศไทย) จำเลยที่ 2 และ 4 คนละ 3 ปีฐานกระทำผิด พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 กรณีเผยแพร่ข้อมูลนอกเหนือจากที่ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ หรือการปั่นหุ้น
และสั่งปรับ TPIPL และ บมจ.สเติร์นฯ รายละ 6,900.3 ล้านบาท แต่บริษัททั้งสองยังไม่ชำระค่าปรับ โดยอ้างว่าไม่มีทุนทรัพย์เพียงพอ ซึ่งภายหลังไต่สวนเจ้าพนักงานบังคับคดีและเจ้าพนักงานพิทักษ์แล้ว อัยการแถลงว่ายังติดใจที่จะนำพยานซึ่งเป็นกรรมการบริษัทจำเลยที่ 1 อีก 5 ปาก
นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งว่า ก่อนหน้านี้ในการนัดไต่สวนเมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลมีคำสั่งให้ออกหมายบังคับคดี บมจ.สเติร์นฯ จำเลยที่ 3 ให้ชำระค่าปรับจำนวน 6,900.3 ล้านบาท ภายใน 30 วัน แต่ปรากฏว่าจำเลยยังไม่ได้รับหมาย ศาลจึงมีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ศาลเร่งดำเนินการส่งหมายบังคับคดีจำเลยภายใน 5 วัน เพื่อให้ปฏิบัติตามคำสั่ง
อย่างไรก็ตาม สำหรับ บมจ.สเติร์นฯ นั้น หากไม่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งศาลในการชำระค่าปรับได้ อัยการจะต้องดำเนินการไต่สวนสืบหาทรัพย์สินเหมือนกรณีของ TPIPL เพื่อบังคับคดีต่อไป