บล.ซิมิโก้(ZMICO) เผยส่วนแบ่งนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์(มาร์เก็ตแชร์)ในปี 51 คงจะทำไม่ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ในระดับ 5% เนื่องจากภาวะตลาดไม่เอื้อ นอกจากนั้น ยังมีผลขาดทุนจากลูกค้าสินเชื่อซื้อขายหลักทรัพย์(มาร์จิ้นโลน)ในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.ราว 100 ล้านบาทจากผลที่ภาวะตลาดหุ้นซบเซาอย่างหนัก
ส่วนแผนธุรกิจที่จะมีการร่วมงานกับ บล.เคทีบี หลังจากที่บริษัทได้เข้าไปถือหุ้นในสัดส่วน 48.81% จะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงต้นปี 52
นางดวงรัตน์ วัฒนพงศ์ชาติ รองกรรมการผู้จัดการ ZMICO คาดว่ามารฺ์เก็ตแชร์ในปีนี้คงจะไม่ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เฉลี่ยที่ 5% ถึงแม้ปัจจุบันมาร์เก็ตแชร์จะอยู่ที่ 4% เล็กน้อย เนื่องจากภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนและวอลุ่มเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลงในแต่ละวันยังส่งผลต่อรายได้ค่าธรรมเนียมโบรกเกอร์ที่ลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ตาม มาร์เก็ตแชร์ที่เพิ่มขึ้นนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มมาจากพอร์ตลงทุน
ทั้งนี้ จากการประเมินของฝ่ายวิจัยทำให้บริษัทสามารถปรับกลยุทธ์ได้ทันโดยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญในเรื่องรายได้ค่านายหน้าซึ่งปัจจุบันสัดส่วนรายได้จากค่านายหน้าเหลือเพียง 80-81% จากปีก่อนที่อยู่ที่ 88-90% รวมถึงการรุกตลาดตราสารอนุพันธ์จึงทำให้บริษัทหารายได้จากส่วนอื่นมาทดแทนได้
นางดวงรัตน์ ยอมรับว่าบริษัทได้รับผลกระทบจากการปล่อยวงเงินมาร์จินในช่วง ต.ค.-พ.ย.ประมาณ 10% หรือ 100 ล้านบาทจากพอร์ต 2,000 ล้านบาท และตอนนี้ก็เหลือวงเงิน 700-800 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวที่เสียหายบริษัทก็ได้มีการเจรจากับลูกค้าและยังได้มีการเตรียมที่จะตั้งสำรองเผื่อเอาไว้ด้วย จากผลกระทบการปล่อยมาร์จินคงจะส่งผลกระทบต่อการขาดทุนของมาร์จินโลนในไตรมาส 4/51 แต่ไม่กระทบกับโอเปอเรชั่น
ส่วนการเข้าไปซื้อหุ้นในบล.เคทีบี 40% นั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาแผนร่วมธุรกิจและคาดว่าจะเห็นความชัดเจนว่าจะมีรูปแบบใดในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งดีลดังกล่าวจะส่งผลต่อมาร์เก็ตแชร์ที่อาจจะเพิ่มขึ้นในปีหน้ารวมถึงการมีลูกค้าที่เพิ่มขึ้นด้วย