สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แจ้งให้บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ทุกแห่งว่า การที่ บล.จะมีการให้กู้ยืมเงินแก่ลูกค้าเพื่อไปชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นที่ บล.อื่น(refinance) เพื่อย้ายมาเป็นลูกหนี้มาร์จิ้นของตนนั้น สามารถทำได้โดยถือเป็นการประกอบกิจการอื่น ซึ่ง บล. จะต้องมีระบบการจัดการความเสี่ยงที่เพียงพอ
ก.ล.ต. ได้ผ่อนคลายเกณฑ์ให้ บล. สามารถนำลูกหนี้ที่เกิดจากการrefinance หนี้ในบัญชีมาร์จิ้นที่ บล. อื่นมานับรวมเป็นสินทรัพย์สภาพคล่อง(Net Capital: NC)ได้ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดอุปสรรคในการปรับโครงสร้างธุรกิจของบล. และการควบรวมกิจการ บล. อันจะเป็นการรองรับการเปิดเสรีการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ในอนาคต
ในกรณีที่ลูกค้า refinance จะเปิดบัญชีมาร์จิ้นใหม่ หรือมีบัญชีมาร์จิ้นกับบล. ที่ให้กู้ยืมเงินเพื่อ refinance อยู่แล้ว หากลูกค้าจะนำหลักประกันของหนี้เดิมมาวางเป็นประกันในบัญชีมาร์จิ้นดังกล่าว บล. ต้องนำหนี้เดิมมาคำนวณอำนาจซื้อหรืออำนาจขายชอร์ตในบัญชีมาร์จิ้นเสมือนเป็นยอดหนี้ที่เกิดจากการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ และต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการให้กู้ยืมเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์ในบัญชีมาร์จิ้นของ ก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย