นายนิวัตต์ จิตตาลาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บัตรกรุงไทย(KTC)คาดว่า รายได้ของบริษัทในปี 52 จะทรงตัวใกล้เคียงกับปี 51 โดยเห็นแนวโน้มของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวชัดเจนขึ้น และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคลดลง ซึ่งทำให้ในปีนี้รายได้เติบโตต่ำกว่าช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาที่เคยเติบโตสูงถึง 30-40%
อย่างไรก็ตาม บริษัทจะพยายามหาพันธมิตรที่เจาะกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม หลังจากที่ล่าสุดจับมือเป็นพันธมิตรกับบมจ.การบินไทย(THAI) ออกโปรโมชั่น KTC-Royal Orchid Plus โดยหลังจากทำตลาด 4 เดือนมีลูกค้าเพิ่มขึ้นถึง 70,000 ราย และเชื่อว่าจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตรงกับความต้องการของลูกค้า
นายนิวัตต์ กล่าวว่า ในปีหน้าบริษัทจะหาบริการใหม่ที่เข้าถึงลูกค้าและเกิดประโยชน์จริง เพื่อกระตุ้นยอดลูกค้าใหม่และการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ก็จะมีความเข้มงวดของการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น โดยขณะนี้บริษัทยังไม่พบตัวเลขหนี้ด้อยคุณภาพ(NPL)เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ 1-2% และเชื่อว่าจะควบคุมได้ เนื่องจากมีทีมติดตามหนี้ที่เข้มแข็ง
ปัจจุบัน บริษัทมีสินเชื่อบุคคลราว 1 หมื่นล้านบาท ไม่มากนักเมื่อเทียบกับธนาคารแห่งอื่นๆ ดังนั้น จึงไม่กังวลว่าจะสร้างปัญหาให้กับบริษัท ทั้งนี้จะเน้นการเติบโตของบัตรเครดิตมากกว่าการปล่อยสินเชื่อบุคคล
นายนิวัตต์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทยังไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน แม้ว่าราคาหุ้นในกระดานอยู่ที่ประมาณ 7 บาท/หุ้น ขณะที่มูลค่าทางบัญชี(Book Value)อยู่ที่ 23 บาท ถือว่าราคาหุ้นต่ำกว่าความเป็นจริงมาก แต่ที่ผ่านมาหุ้นตัวอื่นก็ได้รับกระทบเช่นเดียวกัน และ KTC มีแผนจะนำเงินไปขยายธุรกิจมากกว่า
นอกจากนี้ ในปี 52 จะมีหุ้นกู้ที่จะครบอายุ ซึ่งบริษัทคงจะต้องออกหุ้นกู้มาทดแทน แต่เชื่อว่าจะสามารถระดมเงินได้ เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทขนาดใหญ่อย่าง บมจ.ปตท.(PTT) บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย(SCC) ยังคงระดมเงินได้ และ KTC ไม่เคยมีปัญหา แต่ยังประเมินตัวเลขไม่ได้ว่าจะออกหุ้นกู้ในวงเงินเท่าใด