ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นกว่า 370 จุดเมื่อคืนนี้ (24 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์อย่างคึกคักหลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะทะยานขึ้น นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจอุ้มกิจการซิตี้กรุ๊ป และข่าวที่ว่ารัฐบาลอังกฤษเตรียมประกาศลดภาษีมูลค่าเพิ่ม
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่งขึ้น 372.00 จุด หรือ 9.84% แตะที่ 4,152.96 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,780.96-4,153.08 จุด
ฮิวจ์ บาร์โรว์ นักวิเคราะห์จาก Rathbone Unit Trust Management กล่าวว่า "ข่าวรัฐบาลสหรัฐอุ้มกิจการซิตี้กรุ๊ปช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วโลกคึกคักขึ้น ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้นลอนดอน และยังช่วยดึงนักลงทุนที่ยืนดูความเคลื่อนไหวอยู่นอกตลาดให้กลับเข้ามาซื้อขายอีกครั้ง ข่าวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลสหรัฐไม่ยอมปล่อยให้สถาบันการเงินรายใหญ่ๆล้มละลายลงง่ายๆ เพราะจะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั้งระบบ"
ตลาดหุ้นทั่วโลกขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจอัดฉีดเม็ดเงินลงทุนมูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ในธนาคารซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นหนึ่งในมาตรการช่วยเหลือธนาคาร และข่าวที่ว่า บารัค โอบามา ประกาศแต่งตั้งทิโมธี ไกธ์เนอร์ ดำรงตำแหน่งรมว.คลัง และแต่งตั้งลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส เป็นผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่ารัฐบาลอังกฤษเตรียมปรับลดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ลงชั่วคราวสู่ระดับ 15%
ราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นกว่า 4 ดอลลาร์และข่าวการอุ้มกิจการซิตี้กรุ๊ปของรัฐบาลสหรัฐ ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีพีพุ่งขึ้น 11% หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 23%
ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นบาร์เคลย์ส พุ่งขึ้น 10% และหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ พุ่งขึ้น 7.2% แต่หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วงลง 4.5% หลังจากมีข่าวว่า ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของอังกฤษ วางแผนที่จะระดมทุน 1.8 พันล้านปอนด์ (2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่านการออกหุ้นบุริมสิทธิ์ เพื่อกระตุ้นสถานะทางการเงินของธนาคารในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรง
รายงานระบุว่า สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดระบุว่า เทมาเส็ค โฮลดิ้ง ซึ่งเป็นกองทุนบริหารความมั่งคั่ง (SWF) ของสิงคโปร์ และถือหุ้นอยู่ในสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดอยู่ 18.8% จะเข้าซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์ในสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด โดยเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, ยูบีเอส เอจี และโกลด์แมน แซคส์ เป็นผู้ทำอันเดอร์ไรท์ในการทำธุรกรรมครั้งนี้