นายประเดช กิตติอิสรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. เด็มโก้ (DEMCO ) กล่าวว่าในปี 51 บริษัทได้ปรับเป้ารายได้เหลือ 2.0-2.1 พันล้านบาท จากเดิมตั้งเป้าไว้ 2.4-2.5 พันล้านบาท เนื่องจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแกลบ มูลค่างานประมาณ 300 ล้านบาท ได้ชะลอการก่อสร้างออกไปไปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะได้เงินกู้ในเดือนธ.ค.นี้ ประกอบกับ งานประมูลของภาครัฐในปีนี้เลื่อนออกไป
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้จะมีงานสายส่งไฟฟ้าเปิดประมูลต่อเนื่อง รวมแล้ว ในปีนี้ คาดว่าบริษัทจะมีงานจากภาครัฐและเอกชนที่เข้าร่วมประมูลเกือบ 1 หมื่นล้านบาท และเชื่อว่าจะเพิ่มงานในมือ(backlog)ได้ จากปัจจุบันที่มี 1,533 ล้านบาท แล้ว
ดังนั้นจึงคาดว่าปี 52 จะรับรู้รายได้ประมาณ 2.7-2.8 พันล้านบาท โดยยังไม่รวมโรงไฟฟ้าพลังงานลม ขนาด 70 เมกกะวัตต์ มูลค่างาน ประมาณ 1.2-1.3 พันล้านบาท ที่ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยคาดจะได้ข้อสรุปกลางปี 52 หากเริ่มได้ก็จะรับรู้รายได้ในปี 52 บางส่วน แต่ส่วนใหญ่จะรับรู้รายได้ในปี 53 โดยขณะนี้จนถึงปี 52 บริษัทคาดว่าจะเข้าประมูลงาน เป็นมูลค่าโครงการ 1 หมื่นล้านบาท
"งานที่เข้าร่วมประมูลเราก็มีความหวัง 50/50 ว่าจะได้หรือไม่ แต่ช่วงที่ผ่านมา ที่เข้าประมูล บริษัทผิดหวังทั้งหมด คู่แข่งได้งานไปแล้ว เชื่อว่างานที่เหลือ ก็จะเป็นโอกาสของบริษัท รอลุ้นอีก 1-2 เดือนเราน่าจะได้งานบ้าง" นายประเดช กล่าว
สำหรับการแข่งขันในปีหน้า เชื่อว่าจะลดความรุนแรงลง เนื่องจากจะมีงานจากภาครัฐและเอกชนที่เตรียมประมูลอยู่มาก ซึ่งแตกต่างจากปีนี้ที่มีการแข่งขันราคารุนแรง เพราะมีงานประมูลน้อย โดยปีหน้าเชื่อว่างานภาครัฐในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม และงานด้านไฟฟ้า จะมีการประมูลในระดับสูง
ขณะเดียวกัน บริษัทกังวลเรื่องการขอสินเชื่อที่ธนาคารพาณิชย์อาจมีความเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ซึ่งหากมีโครงการขนาดใหญ่ บริษัทอาจจะไม่ได้รับสินเชื่อได้ แต่เชื่อว่าปัญหาสถาบันการเงินจะไม่ผลกระทบรุนแรงจากวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ในปี 52 สัดส่วนรายได้จะมาจากภาครัฐ 50% และภาคเอกชน 50% เทียบกับปี 51 ที่มีงานภาคเอกชน 90% และงานภาครัฐ 10% ซึ่งจะส่งผลต่ออัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทจะลดลง ซึ่งานภาครัฐได้อัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่างานภาคเอกชน แต่ถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยง ที่งานภาครัฐมีความเสี่ยงน้อยกว่า