"ก้องเกียรติ"ถอดใจเหตุป่วนเมืองปิดสนามบิน"ตอกฝาโลง-ทุบหม้อข้าวตัวเอง"

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 26, 2008 10:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บล.เอเซียพลัส และนายกสมาคมนักวิเคราะห์ ปลงเหตุการณ์วุ่นวายในบ้านเมืองถึงขั้นกลุมพันธมิตรฯบุกยึด-ปิดสนามบินสุวรรณภูมิทำลายภาพลักษณ์ประเทศ ทุบท่องเที่ยวไฮซีซั่น เป็นการซ้ำเติมผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจที่รับแรงกระแทกจากกวิกฤติโลกอยู่แล้ว เลิกหวังตลาดหุ้นฟื้นมองไปก็ไร้อนาคต

"มันก็ชัดเจนนะ อันที่หนึ่งก็คือสัญญาณลักษณ์ของประเทศอย่างหนึ่ง ถ้าทำให้เกิดความเสียหายก็จะใช้เวลานานกว่าที่คนจะลืม และภาพข่าวก็ออกไปทั่วโลกแล้ว ก็คงจะไม่มีใครมีความสุขเท่าไร"นายก้องเกียรติ กล่าว

*มีความเห็นอย่างไรกับเหตุการณ์นี้

"ดูจากนักท่องเที่ยวที่จะเข้าจะออกจากประเทศได้รับความเสียหาย กระทบ อันนี้ผมคิดว่าน่าเสียดายนะ ที่ออกมารูปลักษณะนี้ การประท้วงที่บนฟุตบาทก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การที่เข้าไปยึดและกระทำการอะไรต่ออะไร นักท่องเที่ยวตกค้างกันหมด เครื่องบินลงไม่ได้ขึ้นไม่ได้ น่าเสียดายนะ คนที่ไม่เกี่ยวข้องก็เสียหาย ชาวต่างประเทศเข้า-ออกไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมืองไทยสักหน่อย ถามว่าเขาจะกล้ากลับมาอีกหรือเปล่า...นะมันน่าเสียดาย...ไม่น่าทำกัน"

*ช่วง High season ท่องเที่ยวปลายปีจะเป็นอย่างไร

"เฮ้อ...ตอกฝาโลง ก็ไปที่อื่นไง ตอนที่จะมาเที่ยวเขาจะวางแผนล่วงหน้า ถูกไหม ส่วนใหญ่ก็ไปที่อื่นแล้วล่ะ แล้วคนที่กำลังจะมาที่นี่ก็เปลี่ยนใจแล้วล่ะ ก็ไปประเทศข้างเคียงซะ ก็เสมือนไล่คนไปที่อื่น

การประท้วงมันโอเค แต่ประท้วงแบบทำให้ประเทศมันเสียหาย สมมติว่าถ้าคนส่วนรวมเสียหายจากการประท้วง มันถูกต้องหรือเปล่า จะไปทุบ"หม้อข้าวหม้อแกง"อย่างแม่ค้าที่ไปเปิดร้านค้าในห้าง ตามแหล่งท่องเที่ยว จังหวัดต่าง ๆ ของประเทศไทย เมื่อนักท่องเที่ยวไม่มาก็จะกระทบถูกไหม โดนกันไปหมดนะ อย่างพวกทัวร์ไกด์ แท็กซี่ รถนำเที่ยว โรงแรม เสียหายไปหมด

อย่างสนามกอล์ฟเดี๋ยวนี้เงียบเลย ต่างประเทศ พวกเกาหลี ญี่ป่น หายไปเลย ปกติจะเต็มนะ เพราะช่วงนี้เป็นช่วง High Season แต่ทีนี้พวกเกาหลี-ญี่ปุ่น เขาคำนึงถึงความปลอดภัยจากการท่องเที่ยว เขาก็ไม่มากเลย เพราะประเทศเขามีการเตือนนะ ซึ่งก็มีการเตือนอยู่หลายประเทศแล้ว"

*แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้จะกระทบเศรษฐกิจบ้านเราหรือเปล่า

"มันกระทบอยู่แล้ว ท่องเที่ยว-ส่งออกคือจริง ๆ มันก็แย่อยู่แล้ว หลายคนยังมองโลกในแง่ แต่ผมมองว่าภาคการส่งออกปีหน้า(2552)ติดลบ เท่าไรไม่ทราบ แต่มองว่าไม่น่าโต เพราะท่องเที่ยวก็ติดลบ รถยนต์ก็ติดลบ พืชผลทางการเกษตรราคาก็ตกต่ำ-ก็ติดลบ ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยาง อะไรก็แล้วแต่ เครื่องไฟฟ้าก็ติดลบ ผมดูแล้วไม่มีอะไรบวก คิดดูพวกนี้เป็นพระเอกของการส่งออกของประเทศไทย แล้วมาติดลบกันหมด

ตัวเลขที่พูดนี้ ผมเชื่อว่าก็จะถูกปรับลงในอนาคต แต่พอผ่านไปไตรมาสหนึ่ง ตัวเลขก็จะถูกปรับลงตามสภาพที่แท้จริง ผ่านไปไตรมาสสองก็จะปรับลงอีก เพราะฉะนั้นไปตั้งความหวังไว้สูงก็จะต้องปรับลงเยอะก็เท่านั้น"

*ปีนี้เศรษฐกิจไทยจะยังรอดได้อยู่หรือไหม ครึ่งปีหลังจะเป็นอย่างไร

"ปีนี้ยังมีบุญเก่าของครึ่งปีแรก แต่ครึ่งปีหลังไม่ดีเลย และหลายธุรกิจก็บ่นกัน ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้สภาพธุรกิจมันทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วจนน่าตกใจ

คนเราทำธุรกิจมองอนาคต จะไม่มองอดีต อดีตก็คือสิ่งที่เรารับผลประโยชน์ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย กำไร อะไรก็ว่าไป เป็นเรื่องอดีตหมด แต่เรากำลังมองว่าปีหน้าจะเป็นยังไง มันมืดมนไปหมดแล้วนะ มันมีอะไรดีมั่ง ลำบากนะ แค่เจอปัญหาเศรษฐกิจโลกก็ลำบากแล้ว แล้วเรายังมาทำร้ายกันเองอีก

ต่อให้เลือกตั้งใหม่ในอนาคต แล้วเกิดไม่พอใจจะมีการเล่นอย่างนี้กันอีกหรือเปล่า ผมก็ไม่รู้ ถ้าพรรคไหนขึ้นมาในอนาคต สมมติพรรคนี้ขึ้นมาใหม่ มันก็เหมือนกันอีกตามมา หรืออีกพรรคหนึ่งขึ้นมา แล้วไม่พอใจ ขออะไรไม่ได้ ก็อาจจะเกิดลักษณะเดียวกัน บ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป"

*แล้วตลาดหุ้นไทยจะเป็นยังไง

"ตลาดหุ้นไทยเลิกพูดถึงเลย เลิกคิด ที่อื่นเขาบาดเจ็บสาหัสมาแล้ว ทำไมจะต้องมายุ่งกับเราอีก เวลาเขาจะเข้ามาลงทุนก็ต้องมาเยี่ยมบริษัทจดทะเบียนด้วย ไม่ใช่หลับหูหลับตาเข้ามาลงทุน แต่ถามหน่อยเขากล้าเข้ามาเยี่ยมหรือเปล่าตอนนี้"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ