หุ้นกลุ่มรถยนต์ในตลาดเอเชียดิ่งหนัก หลังฟิทช์หั่นอันดับเครดิต"โตโยต้า"

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 26, 2008 11:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นกลุ่มรถยนต์ในตลาดเอเชียร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ หลังจากฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับเครดิตบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

หุ้นโตโยต้าร่วงลง 4.6% หลังจากสถาบันจัดอันดับเครดิตระหว่างประเทศ ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป จากระดับ AAA สู่ระดับ AA ซึ่งเป็นการลดอันดับเครดิตครั้งแรกในรอบ 10 ปี เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ในสหรัฐที่ตกต่ำลงได้ส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของโตโยต้าด้วย ขณะที่หุ้นฮอนด้า มอเตอร์ ร่วงลง 2.9% และหุ้นเดนโซ คอร์ป ดิ่งลง 3.6%

การปรับลดอันดับเครดิตครั้งนี้ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมของโตโยต้าสูงขึ้นและอาจขัดขวางความพยายามของโตโยต้าที่จะกระตุ้นยอดขายในสหรัฐด้วยการเสนอวงเงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์ดอกเบี้ย 0% นอกจากนี้ โตโยต้าปรับลดคาดการณ์ผลกำไรลงกว่า 56% หลังราคาเชื้อเพลิงพุ่งสูงขึ้น และวิกฤตสินเชื่อได้ฉุดยอดขายรถยนต์ในสหรัฐร่วงหนักสุดในรอบ 25 ปีในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดเช้าร่วงลง 108.27 จุด หรือ 1.30% แตะที่ 8,215.66 จุด ขณะที่ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 80.06 จุดในช่วงเช้านี้

ส่วนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 36.08 จุด หรือ 0.43% แตะที่ 8,479.47 จุดเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัยและเพิ่มการปล่อยกู้ให้กับผู้บริโภค มูลค่ารวม 8 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งแผนการล่าสุดของเฟดครอบคลุมถึงการที่เฟดจะซื้อหนี้และหลักทรัพย์ค้ำประกันจำนองมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของสินเชื่อเพื่อการจำนอง อีกทั้งอัดฉีดเงินกู้สำหรับนักศึกษา เงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์ และบัตรเครดิต

คลอส สมิธ-เฮบเบล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) คาดการณ์ว่า ในปีหน้านี้ กลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980 โดยคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 0.9% ปีหน้า ส่วนประเทศในยุโรปและญี่ปุ่นนั้น คาดว่าจะหดตัวลง 0.6% และ 0.1% ตามลำดับ ขณะที่ในประเทศอังกฤษซึ่งมีตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดในบรรดาสมาชิก OECD มีแนวโน้มจะหดตัวลง 1.1% สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ