โบรกฯเชียร์"เก็งกำไร"THL เล่นตามราคาทองแนวโน้มขึ้น-คาดปี 51 พลิกมีกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 26, 2008 14:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เชียร์เล่นเก็งกำไร หุ้นบมจ.ทุ่งคาฮาเบอร์ (THL) ตามแนวโน้มราคาทองคำโลกเป็นขาขึ้น หลังนักลงทุนทิ้งสินค้าน้ำมัน ประกอบกับผลประกอบการที่ผ่านมาดี และคาดว่าไตรมาส 4 ก็จะมีกำไร ทำให้ทั้งปี 51 บริษัทสามารถพลิกเป็นกำไรจากที่ขาดทุน แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ความไม่แน่นอนในสินค้าทองคำ และโอกาสหุ้นติด Turnover List จึงแนะนำให้เล่นระยะสั้นในเชิงเทคนิครอรับซื้อ และหากโอกาสขายทำกำไร

เช้านี้ราคา THL ปิดที่ 0.96 บาท ลดลง 0.02 (-2.04%) โดยราคาเคยลงไปต่ำสุดที่ 0.81 บาท เมื่อ 27 ต.ค.ที่ผ่านมา

          โบรกเกอร์          คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.ดีบีเอสฯ          ซื้อ                  1.16
          บล.สินเอเซีย         เก็งกำไร             0.90 (แนวรับทางเทคนิค)
          บล.แอ๊คคินซัน         เก็งกำไร             1.00 (แนวรับทางเทคนิค)
          บล.กรุงศรีอยุธยา      เก็งกำไร             0.98-1.00 (แนวรับทางเทคนิค)

นายรณกฤต สารินวงศ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.แอ๊คคินซัน กล่าวว่า หุ้น THL สามารถเก็งตามราคาทองคำที่ดีดขึ้นมา ประกอบกับผลประกอบการของบริษัทเริ่มมีกำไร ซึ่งคาดว่าในไตรมาส 4/51 น่าจะมีกำไร ก็จะทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่มีกำไรเติบโตติดต่อกัน 4 ไตรมาส ทำให้กำหนดค่า P/E ได้ เพราะตอนนี้ค่า P/E ของบริษัทยังติดลบอยู่ มองแล้วแนวโน้มรายได้บริษัทจะดีขึ้นเรื่อยๆ

"แนวโน้มราคาทองในตลาดโลกยังสูงขึ้นอยู่ เชื่อว่าในปีนี้บริษัทน่าจะดีขึ้น รายได้ในไตรมาส 1 ปี 52 น่าจะดีกว่าไตรมาส 1 ปี 51 หรืออาจจะสูสีกัน แต่เป็นแนวโน้มที่ดี จากก่อนหน้าราคาทองในตลาดโลกอยู่ที่กว่า 600 เหรียญ ตอนนี้ขึ้นไป 800 กว่าเหรียญ มองแล้วฐานรายได้บริษัทน่าจะได้สูงขึ้น หุ้น THL ยังเล่นเก็งกำไรได้อยู่"นายรณกฤต กล่าว

หุ้น THL ยังน่าเข้าไปเล่นเก็งกำไร เพราะต่อไปสินค้าทองคำ จะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ (commodity)ที่นักลงทุนจะหันเข้ามาเล่นกัน ถือว่าเป็นสินค้าที่ร้อนแรง เพราะสินค้าโภคภัณฑ์ตัวอื่นราคาไม่ดีแล้ว

ดังนั้น มองในเชิงเทคนิคช่วงสั้น หรือไม่เกินปีนี้ ราคาน่าจะขึ้นไปถึง 1.20 บาทได้ โดยมีแนวรับประมาณ 1.00 บาท

ด้านนายอมเรศ สิงห์ณรงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.สินเอเซีย กล่าวว่า ราคาเริ่มขายทำกำไร เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นมาประมาณ 11% จากที่ปรับตัวขึ้นมา 4 วันแล้ว (วันที่ 20,21,24,25 พ.ย.) ซึ่งราคาหุ้นปรับตามราคาทอง จากนั้นรอให้ราคาอ่อนตัวค่อยเข้ามาเก็บ ที่ระดับราคา 0.90 บาท และรอขายทำกำไรที่ 1.04 บาท ซึ่ง ในช่วงนี้ กรอบราคาจะเล่นกันแคบๆ หรือเล่นทำกำไรประมาณ 10% เพราะว่าช่วงนี้ตลาดรวมยังผันผวนอยู่

"มองว่าแนวโน้มราคาทองมีโอกาสปรับขึ้นได้อีก แต่คงไม่ได้ปรับพรวดเดียว ซึ่งคาดว่าช่วงนี้เป็นการปรับฐานของราคาทอง และถ้าดูพิวเจอร์ทองก็ปรับลง 4 เหรียญกว่า เพราะช่วงหลังนักลงทุนกลับมาเล่นทองคำอีก ขณะที่น้ำมันผันผวน และมีโอกาสปรับลง "นายอมเรศ กล่าว

ส่วนนักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรีอยุธยา เห็นว่า ช่วงที่น่าเข้าเก็บหุ้น THL ที่ 0.90 บาท และหากราคาปรับขึ้นมา 1.10-1.15 บาท เป็นแนวที่ขาย

"แนวโน้มก็ยังโอเค ในเชิงเทคนิคฟื้นตัวขึ้นมาได้ แต่ต้องรอจังหวะนิดหนึ่ง เพราะขึ้นมาแล้วรอบหนึ่ง โดยราคาได้ขึ้นพร้อมกับราคาทองที่เพิ่มขึ้น แต่ช่วงนี้จึงยังไม่ใช่จังหวะที่เข้าซื้อแล้ว"

นอกจากนี้ แนะนำให้รอเข้ารับซื้อที่ระดับราคา 0.98-1.00 บาท ขณะที่ระดับราคาขายทำกำไรที่ 1.10-1.15 บาท แต่หากราคาทะลุ 1.15 บาทก็รอขายที่ 1.30 บาทได้ จากภาวะตลาดเป็นขาขึ้นและราคาหุ้นก็มีแนวโน้ามปรับขึ้นด้วย

แต่ก็ต้องยอมรับหุ้น THL เป็นหุ้นเก็งกำไรส่วนใหญ่จากกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ ที่เล่นสั้น เพราะใช้เงินจำนวนไม่มาก พอได้กำไรก็ขายทิ้ง

บทวิจัยของบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาทองคำในตลาดโลกกลับมาขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลทางจิตวิทยาด้านบวกต่อ THL ซึ่งเป็นบริษัทเดียวในตลาดฯที่ผลิตและจำหน่ายทองคำ นักลงทุนมักจะ Trading หุ้น THL เมื่อราคาทองคำในปัจจุบัน (Spot Rate) ปรับตัวขึ้นแรงทั้งๆที่บริษัทได้กำหนดราคาขายที่แน่นอนไว้แล้ว คือ ปัจจุบันถึง ก.พ.52 ได้ที่ราคา 862 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ และจาก ก.พ.52- ก.พ.53 เป็น 825 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

มองว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้ฟื้นตัวขึ้น คือ พลิกกลับมาเป็นกำไรสุทธิ 96 ล้านบาท จากปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 148 ล้านบาท หลังจากมีการเปิดเหมือง T-1-8 แล้วทำให้ผลผลิตทองคำดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบในปีหน้าคือ ราคาขายทองคำที่ตกลงกับดอยช์แบงก์ลดลงตามที่กล่าวไว้ข้างต้น จึงคาดว่ากำไรสุทธิปี 52 จะปรับลดลงถึง 41% จากปีก่อน THL จึงเหมาะต่อการซื้อเพื่อ Trading เท่านั้น หลังแนะนำ ซื้อ ราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมาแล้ว แต่ราคาปิดปัจจุบันยังมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐานที่ 1.16 บาทได้อีก 13% ราคาพื้นฐานใช้ P/E ปี 52 ที่เพียง 13.0 เท่า รวมกับกำไรแฝงจากที่ดินเปล่าที่ยังไม่ได้ขายออกมา

ความเสี่ยงของ THL คือ ความไม่แน่นอนในผลผลิตทองคำในอนาคต และ หากการเก็งกำไรมีมาก ตลาดฯ อาจจะให้ติด Turnover List คือซื้อขายด้วยการวางเงินสดเท่านั้น และการขายทำกำไร THL จะมีตามมา ส่วนธุรกิจที่น่าติดตามคือ การกลับมาทำเหมืองแร่ดีบุกที่มีอนาคต เพราะราคาในตลาดโลกสูง

อนึ่ง ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก(NYMEX)ปิดลบ 1.00 ดอลลาร์ คืนวันที่ 25 พ.ย.ปิดที่ 818.50 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากราคาพุ่งมา 3 วันติดต่อกัน ราว 3.5% โดยราคาทองคำ NYMEX ได้แตะระดับสูงสุดในรอบ 26 ปี ที่ 868.65 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อ 17 ก.ย.51



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ