ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 247.14 จุด ขานรับแผนเศรษฐกิจ"โอบามา"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 27, 2008 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 240 จุดเมื่อคืนนี้ (26 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่ให้คำมั่นสัญญาว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและคลี่คลายวิกฤตการณ์การเงินทันทีที่เข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐอย่างเป็นทางการ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดพุ่ง 247.14 จุด หรือ 2.91% แตะที่ 8,726.61 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 30.29 จุด หรือ 3.53% แตะที่ 887.68 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 67.37 จุด หรือ 4.60% แตะที่ 1,532.10 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.42 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 6 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.00 พันล้านหุ้น

ไมเคิล เชลดอน หัวหน้านักวิเคราะห์จาก RDM Financial Group กล่าวว่า "บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคักเมื่อโอบามาเปิดเผยแผนเศรษฐกิจและเปิดตัวคณะทำงานด้านเศรษฐกิจอย่างเป็นทางการ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อหุ้นต่อเนื่องจากวันอังคาร หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัยและเงินกู้ผู้บริโภค"

โอบามาเปิดเผยแผนเศรษฐกิจระยะ 2 ปีซึ่งมีมูลค่าอย่างน้อย 5 แสนล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะลดกระแสความวิตกกังวลและฟื้นฟูความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ อีกทั้งวางแผนที่จะ "ยกเครื่อง" งบประมาณการใช้จ่าย ด้วยการตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออกไป และกระตุ้นการจ้างงานให้ได้ 2 ล้านตำแหน่งภายในปีพ.ศ.2553

นอกจากนี้ โอบามายังกล่าวด้วยว่า การกระตุ้นอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการควบคุมงบประมาณการใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง จะเป็นหนึ่งในแนวทางที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างยั่งยืน และการสร้างงานและการลงทุนอย่างชาญฉลาด จะเป็นอีกทางหนึ่งที่นำพาเศรษฐกิจไปในทิศทางที่ถูกต้องและเกิดผลดีในระยะยาว

ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐในรอบปีซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.55 แสนล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะทะยานขึ้นแตะระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากรัฐบาลนำงบประมาณแผ่นดินไปใช้ในการฟื้นฟูภาคการเงินและกระตุ้นเศรษฐกิจ

เชลดอนกล่าวว่า กระแสขานรับแผนเศรษฐกิจของโอบามาช่วยลดปัจจัยลบจากข้อมูลที่ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐในเดือนต.ค.ร่วงลง 6.2% ซึ่งเป็นการร่วงลงรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีพ.ศ.2548 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนต.ค.จะลดลงเพียง 3.0%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดเนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่ายอดขายของบริษัทเทคโนโลยีจะพุ่งสูงขึ้น โดยหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 4.6% หุ้นเดลล์ดีดขึ้น 6%

ส่นหุ้นบลูชิพทะยานขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้น 16% เนื่องจากนักลงทุนยังคงตอบรับข่าวรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจอุ้มกิจการซิตี้กรุ๊ป ขณะที่หุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิ้ล ขยับลง 2 เซนต์ ปิดที่ 63.16 ดอลลาร์ และหุ้นเชฟรอน พุ่งขึ้น 4.4%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ