โบรกแนะ"หลีกเลี่ยง"กลุ่มหลักทรัพย์เหตุวอลุ่มตลาดฟื้นยากเจอพิษการเมืองซ้ำ

นายพลสิทธิ์ ตันฑ์พูนเกียรติ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า หุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์ในเวลานี้ควรจะ"หลีกเลี่ยง"ไปก่อน รอจนกว่าการเมืองจะเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เพราะตอนนี้การเมืองไม่มีทางออก อาจจะได้เห็นแรงขายออกมาในตลาดฯ

ทั้งนี้ คาดว่าปีนี้(2551)วอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันของตลาดฯจะอยู่ที่ 16,000 ล้านบาท ซึ่งจะลดลงจากปีที่แล้ว(2550)ที่มีวอลุ่มเฉลี่ยต่อวันที่ 17,436 ล้านบาท โดยในช่วงครึ่งหลังปีนี้(2551)วอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันของตลาดฯคาดว่าจะมีอยู่แค่ 12,000-13,000 ล้านบาทเท่านั้น เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่ในงวดไตรมาส 1/51 มีวอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันที่ 19,248 ล้านบาท ส่วนในไตรมาส 2/51 มีวอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันที่ 20,398 ล้านบาท

ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ถือว่าภาวะตลาดฯเป็นขาลง จากวอลุ่มขายที่ออกมามาก เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ดี และปัญหาการเมืองในประเทศด้วย การเทรดหุ้นจึงอาจจะลดลง ซึ่งผลกระทบนี้มองว่าจะส่งผลไปถึงปี 2552 ที่เวลานี้คาดว่าวอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวันของปี 52 จะอยู่ประมาณ 15,000 ล้านบาท

นายพลสิทธิ์ กล่าวว่า อย่างหุ้น บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย)หรือ KEST ซึ่งเป็นหุ้นในกลุ่มหลักทรัพย์เช่นกัน เวลานี้ยังให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 8.90 บาท และมีแนวโน้มที่จะปรับประมาณการลงอีก เนื่องจากต้องรับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยเฉพาะเรื่องที่มีการยึดสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ถูก discount ในสายตาของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งตรงจุดนี้อาจจะทำให้วอลุ่มเทรดของตลาดฯฟื้นตัวได้ลำบากขึ้น

ทั้งนี้ ปีนี้(2551)ได้ประมาณการกำไรสุทธิของ KEST ไว้ที่ 477 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.83 บาท ลดลงจากปีก่อน(2550)ที่มีกำไรสุทธิ 551 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 1.01 บาท

เช้านี้ หนังสือพิมพ์ ระบุว่า KEST หวังวอลุ่มตลาดหนุนกำไรไตรมาส 4/2551 มองการเมืองยังป่วนตลาดคาดการณ์ดัชนีได้ยาก แต่มั่นใจมาร์เก็ตแชร์ ทั้งปีไม่หลุดเป้า 8-9% กางแผนปีหน้าเร่งกระจายธุรกิจครบวงจร มุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ เตรียมผุดตู้ ATM หุ้นปีหน้า 5-10 เครื่อง เอาใจลูกค้าเทรดหุ้น

วานนี้(26 พ.ย.)ราคาหุ้น KEST ปิดที่ 6.85 บาท ลดลง 0.10 บาท(-1.44%)มูลค่าซื้อขาย 10 ล้านบาท