นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) เชื่อว่า ในปี 52 บริษัทจะไม่มีผลขาดทุนสต็อกน้ำมัน เนื่องจากมองว่าราคาน้ำมันจะผันผวนน้อยกว่าปีนี้ โดยปรับตัวขึ้นและลงไม่แรง ซึ่งคาดว่าราคาน้ำมันในช่วงต้นปีหน้าจะสูงขึ้นจากที่ร่วงลงมาในระดับกว่า 40 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงปลายปีนี้
ในปี 52 ประเมินว่าราคาน้ำมันจะเฉลี่ยอยู่ที่ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล ถือว่าอยู่ในระดับไม่สูงนัก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อธุรกิจของบริษัท โดยเฉพาะโรงกลั่นและปิโตรเคมีที่ปีหน้าจะเข้าสู่ขาลงอย่างแท้จริง และโดยปกติวัฏจักรขาลงจะอยู่ในช่วง 2 ปี แต่วิกฤติเศรษฐกิจโลกอาจจะทำให้ช่วงเวลายาวนานมากขึ้น ส่งผลกระทบโดยรวมต่อปตท.
แต่ยังเชื่อมั่นว่าธุรกิจขุดเจาะและสำรวจปิโตรเลียมของบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) ยังคงเติบโตได้ในช่วงนี้
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าปีหน้าจะเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับภาคธุรกิจจากผลกระทบวิกฤติเศรษฐกิจโลก แต่ก็เป็นโอกาสที่ดีในการปรับตัว ซึ่งบริษัทอาจพิจารณาควบรวมธุรกิจในเครือที่มีลักษณะใกล้เคียงกันเพิ่มขึ้น
"เมื่อครั้งวิกฤติปี 40 เราก็ดำเนินการควบรวมกิจการหลายแห่งในเครือ ดังนั้น ในปีหน้าเป็นโอกาสที่เราจะมาจัดการกับบริษัทในเครือที่เกี่ยวเนื่องกันอีกครั้งหนึ่ง"นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ กล่าวว่า ปีหน้าบริษัทจะเพิ่มความเข้มงวดในการปล่อยเครดิตให้ลูกค้าที่สั่งซื้อผลิตภัณฑ์ เนื่องจากช่วงนี้มีหลายแห่งประสบปัญหาทางการเงิน และสำหรับ ปตท.เองจะไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ที่ไม่ก่อประโยชน์ในช่วงนี้ แม้ว่า ปตท.มีกระแสเงินสดเพียงพอสำหรับการลงทุนและใช้จ่ายในกิจการ
ส่วนเรื่องซื้อหุ้นคืน นายประเสริฐ กล่าวว่า ยังไม่มีข้อสรุปและยังไม่มีการเข้าซื้อหุ้นคืน เนื่องจากตลาดหุ้นยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง