รายงานข่าวจากธนาคารกสิกรไทย(KBANK)ยอมรับว่า มีลูกค้าขอถอนเงินออกจากธนาคารบ้าง แต่ไม่ได้ถึงขั้นน่าเป็นห่วงถึงขั้นวิกฤติ และคงไม่สามารถประเมินได้ว่า เป็นการถอนเงินจากกรณีทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากเป็นช่วงปลายเดือน ที่ลูกค้าจะมีการถอนเงินมากกว่าปกติอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ผู้บริหารธนาคารได้ประชุมหารือเพื่อวางแนวทางชี้แจงทำความเข้าใจกับลูกค้าภายหลังที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ(นปช.)เรียกร้องให้สมาชิกถอนเงินออกจากธนาคาร 2 แห่งคือธนาคารกสิกรไทยและธนาคากรุงเทพที่เชื่อว่าให้การสนับสนุนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
โดยเบื้องต้น ธนาคารได้แจ้งไปยังสาขาของธนาคารทุกแห่ง ให้พนักงาน ทำความเข้าใจกับลูกค้าในเรื่องนี้
ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ KBANK ได้ออกหนังสือชี้แจงกรณีมีกระแสข่าวกล่าวอ้างและพาดพิงว่า ธนาคารมีส่วนสนับสนุนการชุมนุมประท้วงของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งนั้นว่า ธนาคารประกอบกิจการภายใต้กฎหมายการธนาคารพาณิชย์ มาตลอดระยะเวลา 63 ปี ด้วยความโปร่งใส มีธรรมาภิบาล เป็นธนาคารที่ได้รับความเชื่อถือ ศรัทธา เชื่อมั่น จากลูกค้าประชาชนทั้งในและต่างประเทศมาโดยตลอด ไม่เคยดำเนินการใด ๆ ที่จะสนับสนุนธุรกรรม หรือกิจกรรมใด ๆ เป็นพิเศษ นอกเหนือไปจากการดำเนินธุรกรรมปกติโดยทั่วไปของธนาคารพาณิชย์
ด้าน Fund Survey บล.ไซรัส ระบุว่า แม้ภาคอีสานจะมีสัดส่วนเงินฝากต่อประชากรน้อยที่สุดของประเทศ แต่ในแง่จิตวิทยา หากข่าวการแห่ถอนเงินฝากเป็นจริง จะเป็นแรงกดดันต่อ ธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
จากรายงานผลสำรวจยอดเงินฝากของ ธนาคารพาณิชย์ พบว่า จำนวนสาขาของ ธนาคาร ทั้ง 3 แห่ง แยกเป็น BBL มีทั้งสิ้น 856 สาขาทั่วประเทศ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ 219 สาขา ภาคกลาง 257 สาขา ภาคอิสาน 131 สาขา ภาคเหนือ 137 สาขา และภาคใต้ 112 สาขา
KBANK มีทั้งสิ้น 675 สาขา ประกอบด้วย กรุงเทพฯ240 สาขา ภาคกลาง 219 สาขา ภาคอิสาน 73 สาขา ภาคเหนือ 78 สาขา และภาคใต้ 65 สาขา