บมจ.ทุนธนชาต (TCAP) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน ในวงเงินไม่เกิน1,200 ล้านบาท โดยมีจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนจำนวน 133,315,400 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 10 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2551 ถึงวันที่ 14 มิถุนายน 2552
หลักเกณฑ์ในการกำหนดราคาหุ้นที่จะซื้อคืน โดยให้นำราคาหุ้นเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันก่อนั้นที่บริษัทจะทำการเปิดเผยข้อมูลมาประกอบการพิจารณากำหนดราคาหุ้นด้วย ราคาซื้อคืนจะไม่เกินกว่าร้อยละ 115 ของราคาปิดของหุ้นเฉลี่ย 5 วันทำการซื้อขายก่อนหน้านั้น
ทั้งนี้ ราคาหุ้นปิดเฉลี่ยย้อนหลัง 30 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2551 ถึงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551 เท่ากับ 6.36 บาทต่อหุ้น
เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด และ เพื่อแสดงถึงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท โดยข้อมูลจากงบการเงินสอบทาน/ตรวจสอบงวดล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 บริษัทมีกำไรสะสม เท่ากับ 8,136.89 ล้านบาท , หนี้สินที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน เท่ากับ 6,848.50 ล้านบาท
ส่วนแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการการชำระหนี้คืนที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน ได้แก่ ปัจจุบันบริษัทมีสภาพคล่องในเงินฝากประจำและตั๋วแลกเงินของธนาคารพาณิชย์ ประมาณ 9,200 ล้านบาท ขณะที่มีภาระหนี้จากตั๋วสัญญาใช้เงินและตั๋วแลกเงินครบกำหนดในช่วงเดือน ธ.ค.51-พ.ค.52 ประมาณ 6,848 ล้านบาท ดังนั้น หลังจากชำระหนี้แล้ว บริษัท ยังคงมีสภาพคล่องส่วนเกินประมาณ 2,352 ล้านบาท
จำนวนผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อย (Free float) ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นหรือวันที่คณะกรรมการกำหนดเพื่อกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อวันที่13 ตุลาคม 2551 เท่ากับ 931,925,516 หุ้น หรือร้อยละ 69.90 ของทุนชำระแล้วของบริษัท