TISCO เทคนิคยังขาลง, มองเปลี่ยนโครงสร้างเป็นผลดี-ใครมีหุ้นอยู่รอแลกได้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 28, 2008 09:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สำนักงาน ก.ล.ต. อนุมัติให้ธนาคารทิสโก้(TISCO)ดำเนินการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ หรือ Share Swap แล้ว โดยแลกหุ้น TISCO เป็น TISCO Financial Group ในอัตรา 1:1 ที่ราคา 18 บาท โดยจะเปิดดำเนินการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2551 ถึง 8 มกราคม 2552 นี้

นายอดิศักดิ์ คำมูล ผู้อำนวยการส่วนวิจัยเศรษฐกิจและกลยุทธ์ ฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ(KGI) กล่าวว่า ธุรกิจเช่าซื้อมองว่า ยังไม่น่าจะดีขึ้นในปีหน้า(2552) ดังนั้นนักลงทุนที่มีหุ้น TISCO อยู่แล้วก็รอไปแลกหุ้นของ TISCO Financial Group ได้ ส่วนคนที่ยังไม่มีหุ้นอยู่ในมือก็ยังไม่ควรจะเข้าไปซื้อ

ทั้งนี้ สัญญาณทางเทคนิคยังแสดงทิศทางขาลงอยู่ โดยราคาหุ้นเป็นขาลงอย่างต่อเนื่องมาตลอด 12 วันที่ผ่านมาแล้ว โดยให้แนวรับ 6.50 บาท แนวต้าน 7.50 พร้อมแนะนำ"หลีกเลี่ยง"

ฝ่ายวิจัย บล.เอเชียพลัส แนะ"ถือ"หุ้น TISCO เพื่อรอรับเงินปันผล แม้ปรับลด Fair value เหลือ 9.25 บาท (ปรับลดคาดการณ์ ROE ระยะยาว) แต่ราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาได้ปรับลดลงค่อนข้างมากแล้วเช่นกัน จนล่าสุดมี PBV เพียง 0.39 เท่า ขณะที่การจ่ายปันผลของ TISCO หลังจากปรับโครงสร้างแม้คาดว่าจะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจากปัญหาภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวความจำเป็นต้องสำรองเงินไว้สำหรับการเติบโต จึงปรับลดคาดการณ์เงินปันผลในปี 2551 ที่ 1 บาท/หุ้น และลดลงเหลือ 0.76 บาท/หุ้น ในปี 2552 แต่ยังให้ผลตอบแทนสูงถึง 13.5% และ 10.3% ตามลำดับ (จ่ายปีละครั้ง)

ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างดังกล่าว เป็นผลดีต่อ TISCO ในการช่วยกระจายความเสี่ยงของแต่ละธุรกิจออกจากกัน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มฐานเงินกองทุน (CAR) ขึ้นเป็น 11%-12% จากเดิม 10.2% เนื่องจากได้แยกความเสี่ยงของบริษัทในกลุ่มฯออกไปอยู่ที่บริษัทแม่แล้ว

สำหรับกลยุทธ์การทำธุรกิจของกลุ่ม TISCO ซึ่งยังคงเน้นการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (72% ของสินเชื่อรวม) เช่นเดิม แต่คงเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิด NPL นั้น ฝ่ายวิจัยเห็นว่าเป็นกลยุทธ์ที่ปลอดภัยในสถานการณ์ที่มีความสุ่มเสี่ยงมากขึ้น และสอดคล้องกับสมมติฐานของฝ่ายวิจัยที่คาดว่าสินเชื่อสุทธิในปี 2552 ของ TISCO จะเติบโตเพียง 8% yoy (จากปี 2551 ที่คาดว่าจะขยายตัวถึง 15% yoy)

นอกจากนี้ TISCO ยังเปิดโอกาสสำหรับการเติบโตแบบ Inorganic growth ในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งเป็นจังหวะการลงทุนที่เหมาะสม ด้วยสถานะการเงินที่แข็งแกร่งและมีคุณภาพสูง ภายใต้หลักความระมัดระวัง โดย TISCO เป็น ธ.พ. แห่งแรกของไทยที่ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานบัญชี IAS 39 เต็มรูปแบบ (อาทิ การบันทึกตราสารอนุพันธ์ได้สะท้อนมูลค่ายุติธรรมแล้วจากเดิมที่ใช้เกณฑ์คงค้าง) จึงลดความเสี่ยงของธุรกิจในอนาคตไปได้มาก

วานนี้(27 พ.ย.)ราคาหุ้น TISCO ปิดตลาดที่ 7.25 บาท ลดลง 0.15 บาท(-2.03%)มูลค่าซื้อขาย 30.25 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ