นายประสาน อัครพงศ์พิศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.โลหะกิจ เม็ททอล (LHK) กล่าวยอมรับว่า รายได้และกำไรสุทธิในงวดปี 51 (สิ้นสุด 31 มี.ค.52) จะต่ำกว่าปี 50 ที่มีรายได้ 2.6 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 80.3 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นเพราะคำสั่งซื้อลูกค้าชะลอตัวลง โดยเริ่มเห็นชัดเจนตั้งแต่งวดไตรมาส 3/51(ต.ค.-ธ.ค.51) เพราะลูกค้าลดสต็อกสินค้าเพื่อถือเงินสด รวมถึงกำลังการผลิตของลูกค้ากลุ่มอุตสสาหกรรมยานยนต์ลดลง ทำให้รายได้ในงวดไตรมาส 3/51 ต่ากว่างวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 675 ล้านบาท และกำไรสุทธิ ก็จะลดลงเช่นกันจากปีก่อนในงวดเดียวกันที่มีกำไรสุทธิ 18 ล้านบาท
"หากจะทำให้รายได้ทั้งปีใกล้เคียงกับปีก่อนก็เป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก แม้หวังว่าจะได้เห็น แต่คำสั่งซื้อชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าหลังเทศกาลปีใหม่และตรุษจีนในเดือนมกราคมจะกลับมาดีขึ้น"นายประสาน กล่าว
นายประสาน คาดว่า ผลประกอบการในปีหน้าคงไม่ดีกว่าปีนี้ ซึ่งต้องรอประเมินอีกครั้งหลังหมดงวดปี 51 หรือในเดือนมี.ค. 52 อย่างไรก็ดี บริษัทจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อจะช่วยเพิ่มยอดขายและขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ ขณะเดียวกันบริษัทก็จะถือเงินสดเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงทางการเงินที่อาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และบริษัทก็จะเข้มงวดการปล่อยเครดิตกับลูกค้ามากขึ้น โดยปัจจุบัน บริษัทมีเงินสดอยู่ประมาณ 20กว่าล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าเพียงพอต่อการดำเนินกิจการ
นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าก่อสร้างโรงงานผลิตสแตนเลสที่เป็นชิ้นส่วนใช้สำหรับรถจักรยานยนต์ ซึ่งบริษัทจะใช้เงินลงทุนอีก 40 ล้านบาท คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนม.ค. 52 ซึ่งบริษัทหวังจะมียอดขายจากกลุ่มบริษัท ออโต้ เม็ททอล ซึ่งเป็นบริษัทลูก ประมาณ 230-240 ล้านบาท ในงวดปี 52 จากปัจจุบันที่มียอดขายประมาณกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่มองว่ายังมีกำลังซื้อดีอยู่
ส่วนราคาหุ้นที่ปรับลดลงต่ำมาก บริษัทไม่มีแผนซื้อหุ้นคืน เนื่องจากเงินสดที่มีอยู่เก็บไว้ใช้เป็นทุนหมุนเวียนบริษัท และเห็นว่าการซื้อหุ้นคืนไม่ได้ช่วยให้ราคาหุ้นกลับมาดีขึ้น เพราะขึ้นอยู่กับตลาดหุ้นโดบรวมรวมทั้ง หุ้นของบริษัท เล็ก และไม่ค่อยมีสภาพคล่อง รวมทั้งไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักลงทุน