สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า บมจ. ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ ได้นับ 1 ข้อมูล Filing ในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 เนื่องจากบริษัทจะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป(IPO )จำนวน 35 ล้านหุ้น และจะออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่พนักงานของบริษัท จำนวน 5 ล้านหน่วย ในราคาใช้สิทธิเท่ากับ ราคาที่เสนอขายให้แก่ประชาชนและบุคคลทั่วไป โดยบริษัทฯจะดำเนินการนำหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทเข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีบล.พัฒนสิน เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
โครงการในอนาคตของบริษัท มีดังนี้ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายสำค้า โดยบริษัทคาดว่าจะดำเนินการเพิ่มจำนวนสาขา จากที่มีอยู่ 59 สาขา เป็น 60 สาขา ภายในสิ้นปี 2551 และ 70 สาขาภายในสิ้นปี 2552 ซึ่งคาดว่าต้องใช้เงินลงทุนในการตกแต่งสาขา และซื้อสินค้ามาเพื่อจำหน่ายรวมประมาณ 50 ล้านบาท
นอกจากนี้ จะปรับปรุงระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้สามารถจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และจัดเก็บข้อมูลให้เป็นระบบเรียลไทม์(Real-time) โดยคาดว่าที่สำนักงานใหญ่จะแล้วเสร็จในไตรมาสแรกปี 2552 และทุกสาขาทั่วประเทศภายในปี 2552 ซึ่งคาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุนประมาณ 15 ล้านบาท รวมทั้งจะขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
บมจ. ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับเพชรและเพชรกะรัต ภายใต้เครื่องหมายการค้า"ยูบิลลี่" โดยดำเนินการนำเข้าวัตถุดิบเพชรคุณภาพสูงจากประเทศเบลเยี่ยม แล้วว่าจ้างโรงงานเครื่องประดับและช่างฝีมือในประเทศผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปสำหรับจำหน่าย ปัจจุบันมีจำนวนเคาน์เตอร์จำหน่ายสินค้า 59 สาขา โดยสาขาของบริษัทจำนวน 45 สาขาและสาขาแฟรนไชส์ 14 สาขาใน 26 จังหวัด ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียน 175 ล้านบาท เป็นทุนที่เรียกชำระแล้ว 135 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ภายหลังขายหุ้น IPO ในครั้งนี้ บริษัทฯจะมีทุนชำระแล้ว 170 ล้านบาท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ประกอบด้วย กลุ่มพรประกฤต ถือหุ้น 75% และบริษัทร่วมทุน เค-เอสเอ็มอี จำกัด ถือหุ้น 11%
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในงวด 6 เดือนแรกของปี 2551 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 27.16 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันในปี 2550 ร้อยละ 46.81 กำไรสุทธิของบริษัทเพิ่มขึ้น เป็นผลจากยอดขายของบริษัทที่เพิ่มขึ้นจาก 199.15 ล้านบาท เป็น 277.27 ล้านบาท หรือร้อยละ 39.23 และ ณ 30 มิถุนายน 2551 บริษัทฯมีสินทรัพย์รวม 383.92 ล้านบาท หนี้สินรวม 223.04 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในแต่ละปี โดยกำหนดจ่ายปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของกำไรสุทธิที่เหลือหลังจากหักเงินสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทตามที่ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทและกฎหมาย