นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่มพันธมิตรปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง ส่งผลให้ผู้โดยสารต่างชาติตกค้างอยู่ในประเทศไทยกว่า 1 แสนคน ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้พยายามแก้ปัญหาเพื่อช่วยเหลือผู้โดยสารเหล่านี้ให้สามารถเดินทางกลับประเทศ โดยได้ประสานกับกองทัพอากาศ เพื่อขอใช้ทางเข้าออกท่าอากาศยาน บน.6 เพื่อที่จะนำผู้โดยสารไปขึ้นเครื่องบินของ บมจ. การบินไทย (THAI) ที่จอดอยู่ในท่าอากาศยานดอนเมือง
อย่างไรก็ตาม ผู้โดยสารที่จะเดินทางต้องไปเช็คอินที่สถานีรถไฟใต้ดินลาดพร้าว ซึ่งการบินไทยมีเคาเตอร์เช็คอินที่นั้น หลังจากนั้นองค์การขนส่งมวลชกรุงเทพ (ขสมก.) และบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) จะรับผู้โดยสารไปขึ้นเครื่องบิน ส่วนผู้โดยสารที่จะได้รับการพิจารณาให้เดินทางก่อน คือ คนชรา หรือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ
"ผมสั่งให้การบินไทยไปจัดเที่ยวบินระหว่างประเทศ ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1-2 ชั่วโมง เช่น เส้นทางกรุงเทพฯ-สิงคโปร์, ฮ่องกง, มาเลเซีย เพื่อที่จะหมุนเวียนการใช้งานเครื่องบินที่มีอยู่ให้เร็วที่สุด และจะได้รับส่งผู้โดยสารที่ต้องการกลับบ้านได้มากที่สุด คาดว่าเช้าวันนี้ (29 พ.ย) จะทราบว่าจะสามารถทำการบินได้กี่เที่ยวบิน" นายสันติ กล่าว
สาเหตุที่ต้องขอใช้ท่าอากาศยาน บน.6 เพราะปัจจุบันท่าอากาศยานอู่ตะเภา มีปัญหาความแออัดไม่สามารถรองรับผู้โดยสารจำนวนมากได้ โดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้วันละประมาณ 3-4 พันคนเท่านั้น
ทั้งนี้ ต้องขอวิงวอนกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ไม่ให้ปิดทางเข้าออกที่จะใช้ดังกล่าว โดยให้เห็นใจผู้โดยสารที่ตกค้าง ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการแก้ปัญหาเพื่อช่วยเหลือผู้โดยสาร ไม่ใช่เพื่อการพาณิชย์ แต่หากมีกลุ่มพันธมิตรมาปิดล้อมเส้นทางอีกก็คงจะไม่สามารถช่วยเหลือผู้โดยสารเหล่านี้ได้ การดำเนินการข้างต้นก็ต้องยกเลิก