บมจ.เอส.อี.ซี.ออโต้เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส(SECC )เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 27 พ.ย.51 พิจารณาและชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกรณีที่ ปรากฏข่าวในสื่อมวลชนว่าผู้บริหารได้หลบหนีออกนอกประเทศ ซึ่งบริษัทมิได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องดังกล่าว โดยหลังจากทราบเรื่องก็ได้รีบดำเนินการติดต่อนายสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ โดยทันที แต่จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงพยายามติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องและหากมีความคืบหน้าประการใดจะรีบแจ้งทันที เพื่อรักษาผลประโยชน์สูงสุดให้เกิดแก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
บริษัท ฯ จึงขอชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงกัน คือ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 พฤศจิกายน 2551 ได้มีการสอบเข้ามายังนายไพบูลย์ สุขสุธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่านายสมพงษ์ เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว ซึ่งหลังจากรับทราบข้อมูลดังกล่าวบริษัท ได้พยายามติดต่อคุณสมพงษ์ วิทยารักษ์สรรค์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ตลอดทั้งวัน
ประกอบกับมีเจ้าหนี้ส่วนบุคคลของนายสมพงษ์ เข้ามาสอบถามข้อมูลและขอยึดรถไปเพื่อชำระหนี้ โดยต่อมาวันที่ 26 พฤศจิกายน 2551 นายไพบูลย์ ได้นัดหารือกับคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งทางนายสมบูรณ์ อาหุนัย ได้เสนอให้มีการเช็คสต็อกรถยนต์ของบริษัททั้งหมด พร้อมแจ้งผลให้กรรมการบริษัททุกคนรับทราบโดยเร็ว
แต่เนื่องจากในวันดังกล่าว คุณไพบูลย์ ติดภารกิจต้องไปประชุมร่วมกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ฯ เพื่อชี้แจงถึงปัญหาที่เกิดกับบริษัท ฯ และต้องติอต่อประสานงานเพื่อนำรถยนต์เข้าร่วมงาน Motor Expo 2008 ประธานตรวจสอบจึงได้เรียกประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาผลกระทบเหตุการณ์การหายตัวไปของนายสมพงษ์ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจได้ แม้ว่าจะไม่มีนายสมพงษ์ ร่วมอยู่ในคณะผู้บริหาร เนื่องจากบริษัท ฯ บริหารงานแบบมืออาชีพ ส่วนผลกระทบกับคู่ค้า บริษัทฯ ยังได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้าทางธุรกิจ อันเนื่องมาจากสัมพันธภาพที่ดีและมีต่อกันมายาวนาน และผลกระทบต่อลูกค้า บริษัทฯ ยังสามารถให้บริการลูกค้าได้ ทั้งในส่วนของการจัดจำหน่ายรถยนต์และการให้บริการหลังการขาย
และผลกระทบต่อผู้ถือหุ้น จากการที่ธุรกิจยังสามารถดำเนินต่อไปได้โดยได้รับการสนับสนุนจากคู่ค้าและลูกค้าที่ดีต่อเนื่อง ทำให้ บริษัท ฯ มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ นอกจากนี้ทางผู้ถือหุ้นรายใหญ่ยังให้ความวางใจและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนกับบริษัท ฯ ในทุกๆ ด้าน
ทั้งนี้ การดำเนินการในเบื้องต้น คณะกรรมการได้มีมติมอบหมายให้นายไพบูลย์ เป็นผู้รับผิดชอบโดยให้สรรหาบุคคลภายนอกที่มีความรู้ความสามารถ เพื่อเข้าตรวจสอบสอบรายละเอียดของทรัพย์สินของบริษัท ฯ
พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งคณะกรรมการอิสระของบริษัท ฯ ซึ่งประกอบไปด้วย 1. นายไชยวุฒิ จิตธิวงษ์ ประธานกรรมการตรวจสอบ 2. นายสมบูรณ์ อาหุนัย กรรมการตรวจสอบ และ 3. นายสุดใจ แสงรัตน์ กรรมการตรวจสอบ โดยมีนายไชยวุฒิ จิตธิวงษ์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ซึ่งมีเป้าหมายจะเร่งดำเนินการตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดให้เร็วที่สุด เพื่อได้ขอสรุปแล้วจะรีบแจ้งโดยทันที