ROJANA มองปี 52 ไม่เลวร้าย รายได้ใกล้เคียงปีนี้-รายได้คอนโดฯจีนหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 1, 2008 10:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ(ROJANA)คาดปี 52 ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมไม่ถึงขั้นเลวร้ายแม้ได้รับผลกระทบวิกฤติโลก ประเมินขายที่ดินลดลงเหลือราว 400 ไร่ ต่ำกว่าปี 51 ที่ขายได้ 600 ไร่ แต่บริษัทยังได้มีรายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมจากจีนที่รับรู้รายได้มากกว่า 1 พันล้านบาท เบื้องต้นมองว่ารายได้ใกล้เคียงปีนี้ ที่มั่นใจได้ตามเป้า 7 พันล้านบาท หรือหากลดลงก็ไม่มาก

น.ส.อมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการ ROJANA กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลกที่บริษัทรับคือการขายที่ดินที่อาจจะต่ำกว่าปีนี้ ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ขายที่ดินได้ค่อนข้างสูงมาณ 600 กว่าไร่ เป็นต้วเลขที่กระโดดมากจากปีก่อน แต่ปีหน้าคาดว่าจะขายที่ดินได้ 400 ไร่ "ปีหน้าตัวที่เหวี่ยงหนักก็เป็นการขายที่ดินในนิคมฯ แต่รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมในจีนปีหน้าก็จะเข้ามาเยอะขึ้น และจะเข้ามาชดเชย ซึ่งมาจากยอดขายเพิ่มขึ้น"น.ส.อมรา กล่าว

แม้รายได้จากการขายที่ดินจะต่ำลง แต่บริษัทก็ยังดีทีมีรายได้จากการขายโครงการคอนโดมิเนียมในจีนเพิ่มขึ้น ที่คาดว่าปีหน้าจะรับรู้รายได้มากกว่า 1 พันล้านบาท จากปีนี้ที่รับรู้รายได้ประมาณ 300-400 ล้านบาท โดบขณะนี้มียอดขาย 40% คาดว่าปีหน้าจะโต 70-80% ของมูลค่าโครงการ 3 พันล้านบาท และจะสร้างเสร็จในปี 53 อย่างไยังไม่มีแผนลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจีนต่อเนื่อง คงต้องดูสักระยะ ต้องค่อยๆเป็นค่อยๆไป

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปีนี้ทำรายได้ 7 พันล้านบาทตามเป้าหมาย โดยยอดขายที่ดินครึ่งปีหลัง 300 ไร่ รับรู้เป็นรายได้ปีนี้ 40% ที่เหลือ 60% ไปบันทึกในปีหน้าคิดแป็นเงิน 400-500 ล้านบาท และคาดว่ารายได้ในปี 52 อย่างน้อยใกล้เคียงปี 51 หรือหากลดลงก็จะไม่มากเมื่อเทียบกับปีนี้

"ผลประกอบการปีหน้าคงจะลดลงไม่มาก หรืออาจจะไม่ลดก็ได้ คือ เอาเป็นแค่ว่าทุกคตนประคองตัว ให้อยู่รอดปลอดภัยภายใต้เศรษฐกิจที่ down สุดๆ ทุกคนประคองได้ในระดับใกล้เคียงในระดับเดิม เชื่อว่า Happy แล้ว ส่วนใหญ่ดูบรรทัดสุดท้ายของบริษัท(กำไรสุทธิ)ว่า โอเคไหม ทั้งปีนี้ปีหน้าเราน่าจะพึงพอใจผลประกอบการภายใต้แรงกดดันเศรษฐกิจสารพัด เราคิดว่าน่าจะพึงพอใจ" น.ส.อมรา กล่าว

อย่างไรก็ดี แม้สภาพเศรษฐกิจจะไม่ค่อยดี แต่ไตรมาส 4/51 ยังขายที่ดินได้ และคาดว่าจะมีรายได้ดีกว่าไตรมาส 3/51 เนื่องจากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลก ยังไม่เกิดขึ้นทันที รวมทั้งยังได้กำไรจากการลงทุนในบมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(TICON) ที่มีรายได้และกำไรจากการขยายกองทุนอสังหาริมทรัพย์ TFUND จำนวน 2.4 พันล้านบาท

ทั้งนี้ ตลาดนิคมอุตสาหกรรมที่มีลูกค้าเป็นนักลงทุนไทยมีแนวโน้มจะขยายการผลิต แต่ถ้าเป็นการลงทุนนจากบริษัทต่างประเทศก็หลีกเลี่ยงไม่พ้น เช่น ญี่ปุ่น สหรัฐ ยุโรป โดยญี่ปุ่นเองก็พึ่งพาการส่งออก คือตอนนี้ทุกคนยังไม่แน่ใจว่า floor อยู่ตรงไหน และผลกระทบสุดท้ายจะจบลงตรงไหน ถ้าทุกคนรู้ bottom ก็จะเริ่มปรับตัวได้

แม้จะเห็นว่าธุรกิจที่เข้าจะต้องลงทุน ก็คงต้องลงทุนไปตามแผน แต่ยอมรับว่า ความร้อนแรงนิคมอุตสากรรมคงจะลดลง เพราะทุกคนก็ต้องรอประเมินจากความต้องการลูกค้าก่อน ภาวะเศรษฐกิจที่จะเข้าภาวะถดถอย การส่งออกลดลงไหม ซึ่งยากหลีกเลี่ยงผลกระทบ และ อาจต้องมีการลดคนงานบ้าง แต่ก้คงไม่ถึงขึ้นปิดกิจการ

ในงวด 9 เดือน บริษัทมีรายได้รวม 4.9 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 455 ล้านบาท

*ปี 52 ลงทุนไม่มาก/สำรองสภาพคล่อง

ส่วนแผนปีหน้าคงไม่ลงทุนมาก คาดว่าจะลงทุนในช่วงปลายปีเป็นการลงทุนโรงไฟฟ้าเฟสถัดไป กำลังการผลิต 45 เมกกะวัตต์ ใช้เงิน 1 พันกว่าล้านบาท แต่หากสถานการณ์ยังไม่เหมาะสม ก็อาจเลื่อนไปลงทุนในปี 53 เพราะยังไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน ที่ดินก็ยังพอมีมากอยู่สำหรับไว้ขาย

ขณะเดียวกัน บริษัทได้ขอวงแงินกู้จากแบงก์ หรือเครดิตไลน์ ไว้ สำหรับเป็นทุนหมุนเวียนและรองรับภาระการชำระหนี้ ที่เป็นตั๋วเงินระยะสั้น 3-6 เดือนจำนวน 800 ล้านบาท บริษัทได้เตรียมวงเงินไว้แล้ว เพราะคาดว่าปีหน้าสภาพคล่องจะไม่ค่อยมี

"ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าหนี้ ซึ่งหากตลาดเงินเลวร้ายก็หาวิธีป้องกัน แม้กระทั่งการพูดคุยกับผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็ได้ขอเงินฉุกเฉินสนับสนุนให้บริษัท คงไม่ถึงเพิ่มทุน ก็ต้องดูผลกระทบว่ายาว-สั้นขนาดไหน ถ้าเกิดตั๋วครบกำหนดไม่มีคน roll over เพื่อไม่ไห้เกิด default ทั้งนี้ เราได้เตรียมแหล่งเงินเพียงพอแล้ว"น.ส.อมรากล่าว

*ยกเลิกทำนิคมฯในจีน

ส่วนกรณีคณะกรรมการ ROJANA มีมติให้บริษัทยกเลิกการลงทุนในบริษัท โรจนะ อินดัสเตรียล ปาร์ค (ฉางโจว) จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์, ตัวแทนขายที่ดิน ทุนจดทะเบียนและเรียกชำระแล้ว 3 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อกลางเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา

น.ส.อมรา กล่าวว่า การยกเลิกบริษัทร่วมทุนที่ฉางโจว เพราะยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมไม่คืบหน้า แม้ว่าบริษัทได้เข้าไปนานมากแล้วประมาณ 4-5 ปี เพราะการแข่งขันธุรกิจนิคมฯรุนแรง และจีนก็ยังไม่มีกฎระเบียบชัดเจน การขายค่อนข้างช้า เพราะมีข้อจำกัด ขายให้ได้แต่นักลงทุนต่างชาติเท่านั้น

"เราเห็นว่า ทำได้ยาก ถ้าอย่างนั้นไปทำอย่างอื่นดีกว่า จึงได้ปิดบริษัทไป ซึ่งสิทธิเช่าที่ดิน 50 ปีก็คืนเขาไป แทนที่จะดองเงินไว้ที่เมืองจีน เราก็เลิกบริษัทเสีย เอาเงินไปทำอย่างอืน สรุปดีลนี้เราไม่ขาดทุน เราลงทุนไป 10 กว่าล้านบาท"น.ส.อมรา กล่าว

ROJANA มีนิคมอุตสาหกรรม 2 แห่ง ได้แก่ เขต/สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดระยอง และ โครงการพัฒนาคอนโดมิเนียม Kaina Plaza มูลค่า 3,000 ล้านบาทในประเทศจีน



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ