ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวร่วงลงถ้วนหน้าในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ หลังจากบริษัทบีเอชพี บิลลิตัน ผู้ประกอบการเหมืองแร่รายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียรายงานผลกำไรที่ชะลอตัว ประกอบกับความเคลื่อนไหวของบริษัทโมริโมโตะ โค ของญี่ปุ่นที่ประสบภาวะล้มละลายเป็นบริษัทที่ 2 ของญี่ปุ่นในปีนี้
โดยหุ้นของบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 4% ในตลาดหุ้นออสเตรเลีย หลังมีรายงานว่า ผลกำไรของบริษัทชะลอตัวลงในไตรมาสที่สาม ขณะที่ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวลดลง ขณะที่หุ้นของมิตซูบิชิ เอสเตท โค บริษัทผู้พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับสองของญี่ปุ่นทรุดตัวลง 3.9% นำหุ้นกลุ่มเดียวกันทรุดตัวตามไปด้วย หลังจากที่บริษัทโมริโมโตะยื่นเอกสารขอพิทักษ์ทรัพย์ล้มละลาย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 10.32 น.ตามเวลาโตเกียว ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 1.4% โดยมีตลาดหุ้นโตเกียวดิ่งลง 1.96% ตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลง 1.15% ตลาดหุ้นฮ่องกงทรุดตัวลง 0.81% และตลาดหุ้นเกาหลีใต้ตกลง 1%
ทั้งนี้ ดัชนี MSCI Asia Pacific ซึ่งชี้วัดบรรยากาศการซื้อขายในตลาดเอเชียดิ่งลงถึง 48% ในปีนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ซบเซาของสหรัฐเป็นชนวนเหตุให้เกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกที่ฉุดรั้งให้บรรดาชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย
"สภาพเศรษฐกิจที่เลวร้ายเริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ" โทโมชิกะ คิตาโอกะ นักวิเคราะห์จากบล.มิตซูโฮ กล่าว
ด้านคาโอรุ โยซาโนะ รัฐมนตรีเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของญี่ปุ่นกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์สว่า มาตรการกระตุ้นภาคการเงินที่มีการเสนอขึ้นมานั้นอาจไม่ช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจดีขึ้น ส่วนตลาดหุ้นทั่วเอเชียจะปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ ยอดค้าปลีกของสหรัฐขยายตัวต่ำที่สุดในรอบ 3 ปีที่ระดับ 3% เมื่อเทียบกับที่พุ่งขึ้น 8.3% ในปีทีแล้ว ขณะที่ราคาน้ำมันดิบงวดส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลงไปอยู่ที่ระดับ 53.55 ดอลลาร์/บาร์เรล