ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กกระแสวิตกเศรษฐกิจถดถอย ฉุดดาวโจนส์ดิ่งเหว 679.95 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 2, 2008 06:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 670 จุดเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากกระแสความวิตกกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย หลังจากสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2550 นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ รวมถึงข้อมูลด้านการผลิตของสหรัฐ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดทรุดลง 679.95 จุด หรือ 7.70% แตะที่ 8,149.09 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดร่วง 80.03 จุด หรือ 8.93% แตะที่ 816.21 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดร่วง 137.50 จุด หรือ 8.95% แตะที่ 1,398.07 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.64 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 7 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.99 พันล้านหุ้น

ไมค์ สแตนฟิลด์ นักวิเคราะห์จาก VSR Financial Services กล่าวว่า นักลงทุนตื่นตระหนกกับข้อมูลของสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอยแล้วตั้งแต่เดือนธ.ค.ปี 2550 โดยเศรษฐกิจยุติการขยายตัวที่ดำเนินมานาน 73 เดือน ขณะที่ เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยอมรับว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับภาวะที่ตึงเครียดอย่างมาก

นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นแม้ ShopperTrak RCT ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยในชิคาโกซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยธุรกิจค้าปลีก กล่าวว่า ร้านค้าในสหรัฐสามารถทำยอดขายเฉลี่ยเบื้องต้นสำหรับวัน "แบล็ค ฟรายเดย์" หรือวันศุกร์หลังวันขอบคุณพระเจ้า ได้รวมทั้งสิ้น 1.06 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือพุ่งขึ้น 3% จากปีก่อน ทั้งนี้โดยปกติแล้ว วัน "แบล็ค ฟรายเดย์" มักเป็นวันที่ประชนออกมาจับจ่ายเลือกซื้อของขวัญกันมากที่สุดวันหนึ่งของปี

ข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐเป็นหนึ่งในปัจจัยลบที่สร้างแรงกดดันในตลาดเมื่อคืนนี้ รวมถึงข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนต.ค.ร่วงลงอย่างหนักถึง 1.2% หลังจากทรงตัวในเดือนก.ย. และร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ว่าจะขยับลงเพียง 1.0%

ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตของโรงงานในสหรัฐ ร่วงลงแตะระดับ 36.2 จุดในเดือนพ.ย.ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปีพ.ศ.2525 จากเดือนต.ค.ที่ระดับ 38.9 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 37 จุด

ชัค วิกเนอร์ นักวิเคราะห์จาก Brinker Capital กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่จับตาดูตัวเลขจ้างงานและตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภค โดยโพลล์นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) เดือนพ.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานจะเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 5 ธ.ค. จะร่วงลงอีก 320,000 คน และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ 6.8%

ด้านลูอิส อเล็กซานเดอร์ นักวิเคราะห์จากซิตี้กรุ๊ปในกรุงนิวยอร์กคาดการณ์ว่า "อัตราว่างงานทั่วโลกอาจพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปี และคาดว่าอัตราการลงทุนทั่วโลกจะได้รับผลกระทบจากการหดตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐ เพราะเศรษฐกิจที่หดตัวของสหรัฐจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประเทศคู่ค้า และจะทำให้อัตราจ้างงานของประเทศคู่ค้าทรุดตัวลงด้วย"

หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงอย่างหนักเนื่องจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปดิ่งลง 22.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ร่วงลง 23.1% และหุ้นโกลด์ แมนแซคส์ ร่วงลง 16.7%

ส่วนหุ้นกลุ่มค้าปลีกทรุดตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นวอล-มาร์ท ร่วงลง 5.1% และหุ้นเจซี เพนนี ดิ่งลง 12.8%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ