ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (1 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะดิ่งลง อันเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอย
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 222.52 จุด หรือ 5.19% ปิดที่ 4,065.49 หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,038.45-4,288.01 จุด
คริส ซาจ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ฟิเลดิตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ในกรุงลอนดอน กล่าวว่า "นักลงทุนวิตกกังวลว่าวิกฤติเศรษฐกิจที่ลุกลามไปทั่วโลกจะส่งผลให้เศรษฐกิจอังกฤษถดถอยลงด้วย โดยเฉพาะเมื่อมีการเปิดเผยข้อมูลราคาบ้านในอังกฤษ"
บริษัทวิจัยตลาดอสังหาริมทรัพย์โฮมแทร็ค (Hometrack Ltd.) รายงานว่า ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา ราคาบ้านโดยเฉลี่ยในอังกฤษและเวลส์ลดลง 8.1% เหลือ 161,400 ปอนด์ (248,000 ดอลลาร์) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปี 2549 ในขณะที่มูลค่าบ้านลดลง 1.1% ในเดือนพ.ย. เทียบกับ 1.3% ในเดือนต.ค.
นายกรัฐมนตรีกอร์ดอน บราวน์ ของอังกฤษ ได้เรียกร้องให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อให้มากขึ้น เนื่องจากรัฐบาลได้รับแรงกดดันอย่างหนักให้ใช้มาตรการต่างๆเพื่อบังคับให้ธนาคารปล่อยสินเชื่อ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางอังกฤษซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าธนาคารกลางอังกฤษจะลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับ 3.25%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นบีพี ดิ่งลง 5.3% หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ร่วงลง 6.2% หุ้นบีจี กรุ๊ป ดิ่งลง 7.2% และหุ้นทุลโลว์ ออยล์ดิ่งลง 8.6%
ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดิ่งลงเช่นกัน โดยหุ้นลอนมินดิ่งลง 18.3% หุ้นเวแดนตา รีซอร์สเซส ร่วงลง 15.6% และหุ้นคาซัคมิสดิ่งลง 16.5% ส่วนหุ้นเอ็กซ์สตราตาดิ่งลง 12.5% หลังจากทางบริษัทระงับการผลิตโลหะเฟอร์โรโครมเพิ่มเติมเนื่องจากตลาดโลหะประเภทนี้ชะลอตัวลง
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงด้วย โดยหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ร่วงลง 2.1% หุ้นธนาคาร HBOS ดิ่งลง 3.5% หุ้นธนาคาร HSBC ทรุดตัวลง 12.2% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์ส รร่วงลง 12.8% หุ้นธนาคารลอยด์ส ทีเอสบี ร่วงลง 13.2%