บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(CPF)ตั้งเป้าปี 52 ปริมาณส่งออกไก่แปรรูปจะเพิ่ม 10% เป็น 1 แสนตันจากปีนี้ที่ส่งออกได้ราว 9 หมื่นตัน แต่มูลค่าส่งออกคาดจะเติบโตได้ต่ำกว่า เนื่องจากราคาขายลดลงที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอและปรับลงตามต้นทุนวัตถุดิบ โดยไตรมาส 1/52 มีออเดอร์เข้ามาแล้ว แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ประเมินธุรกิจไก่แปรรูปไม่กระทบมากนักจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก
"ตัวเลขส่งออกในปีหน้า ปริมาณเราคิดว่าโตได้ 10% ส่วนมูลค่าที่ส่งออกปีหน้าสูงขึ้น แต่อาจจะไม่โตตามสัดส่วนปริมาณที่เพิ่มขึ้น 10% ตอนนี้ยังไม่แน่ใจ ขึ้นอยู่กับตลาดการแข่งขันด้วย ปีหน้าค้าขายลำบาก การแข่งขันเรื่องราคาจะมีด้วย...ต้องไปดูหลังไตรมาส 1 อีกที ตอนนี้ยังไม่กังวล เพราะไตรมาส 1 ปีหน้าเรามีออเดอร์เข้ามาล่วงหน้า แต่ต้องติดตามเรื่องเศรษฐกิจ ถึงเศรษฐกิจไม่ดีก็ยังสั่งซื้ออยู่อาจลดลงนิดหน่อย คงไม่กระทบรุนแรง" นายธีรศักดิ์ อุรุนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สายธุรกิจอาหารแปรรูปและครบวงจร CPF กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ทั้งนี้ เนื่องจากตลาดหลักของ CPF ที่อียูและญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจถดถอยมาก
*คาด Q4/51 ยอดขายรวมใน ปท.วูบจากผลกระทบการเมือง-ศก.ชะลอ
ส่วนในไตรมาส 4/51 นายธีรศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดในประเทศรวมๆ แล้วยอดขายลดลงไป 20% เป็นเพราะภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศก็ไม่ดี และสถานการณ์ด้านการเมืองเข้ามาซ้ำเติม ทำให้ตลาดค้าขายเงียบ ทั้งๆที่ไตรมาสนี้จะมียอดขายดีเพราะเป็นช่วงเทศกาล แต่ปีนี้ ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการใช้จ่าย
ราคาไก่สดในประเทศ ขณะนี้อยู่ที่ 35-36 บาท/กก. ลดลงจากไตรมาส 3/51ที่เคยปรับขึ้นไปสูงถึงกว่า 40 บาท/กก.
ขณะที่ยอดคำสั่งซื้อจากสายการบิน, โรงแรม ก็ยังเป็นปกติ แม้จะมีปัญหาการชุมนุมปิดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง เพราะเป็นการทำสัญญาซื้อขายระยะยาว บริษัทจึงไม่ได้รับผลกระทบ
"ช่วงนี้สายการบิน โรงแรม ยังสั่งซื้อตามปกติไม่ได้เพิ่มขึ้น การบินไทยตอนนี้ไฟลท์บินจำนวนลดลงจริงๆต้องสั่งน้อยลง แต่เพราะเรามี contract กันเป็นปีๆ คิดว่าเหตุการณ์ปิดสนามบินเป็นแค่ช่วงสั้นๆ..ในไตรมาส 4 ตลาดในประเทศอ่อนตัว" นายธีรศักดิ์ กล่าว
ขณะที่การส่งออกไก่แปรรูปยังไปได้ดี เพราะส่วนใหญ่ขนส่งทางเรือ จึงไม่ได้กระทบจากการปิดขนส่งสินค้าทางอากาศ และราคาขายก็ยังดี
ทั้งนี้ ธุรกิจไก่ของบริษัท แบ่งเป็นส่งออก 30% และ 70% เป็๋นตลาดในประเทศ