นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.บางจากปิโตรเลียม (BCP) คาดปี 52 ค่าการกลั่นของบริษัทเฉลี่ยระดับ 4-5 เหรียญ/บาร์เรล จากก่อนหน้านี้คาดค่าการกลั่นเฉลี่ยอยู่ที่ 6 เหรียญ/บาร์เรล เนื่องจาก เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาซึ่งเป็นช่วงราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น บริษัทได้มีการทำสัญญาล่วงหน้าค้าการกลั่นที่ระดับ 7 เหรียญ/บาร์เรล สัดส่วน 40% ของกำลังการกลั่น อายุสัญญาครอบคลุมถึงปี 52 ซึ่งเป็นช่วงค่าการกลั่นอยู่ในช่วงขาลง
"ยอมรับว่าธุรกิจโรงกลั่นเข้าสู่ธุรกิจขาลง เนื่องจากจะมีโรงกลั่นใหม่ที่อินเดีย และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้ปริมาณการใช้ลดลง แต่ยังมั่นใจค่าการกลั่นของเรายังอยู่ระดับ 4-5 เหรียญ ไม่น่าจะลงไปถึง 2 เหรียญเหมือนปี 40" นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ ยอมรับว่า ความต้องการใช้น้ำมันในประเทศในปีหน้าคาดว่าจะติดลบ 5% หากจีดีพีโตในระดับ 0-2% จากประมาณการเดิมที่คาดว่าความต้องการใช้จะติดลบ 3% ดังนั้น บริษัทจึงต้องหาตลาดส่งออกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา โดยในส่วนน้ำมันเตา ได้เซ็นสัญญาขายหมดทั้งจำนวนจนถึงสิ้นปี 52
ในปี 52 BCP จะมีกำลังการกลั่น 9.5 หมื่นล้านบาร์เรล/วัน หลังโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน ( PQI) แล้วเสร็จ ทำให้บริษัทต้องหาทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง โดย BCP ได้เซ็นสัญญากับธ.ทหารไทย (TMB) มูลค่ากว่า 1.5 พันล้านบาท
อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีหน้าหลังโครงการ PQI บริษัทจะผลิตน้ำมั้นเบนซิน และ ดีเซลรวมกันได้มากขึ้นเป็นกว่า 60% จากปัจจุบันได้กำลังการกลั่นรวมกันประมาณ 30% ขณะที่น้ำมันเตาเหลือสัดส่วนการกลั่น 10% จากเดิม 30%
สำหรับแผนปี 52 บริษัทยังคงดำเนินนโยบายเน้นการขายไบโอดีเซล แต่ยังคงแผนยกเลิกขายเบนซิน 95 เนื่องจากกลุ่มบางจากฯ ไม่ได้เน้นขายเบนซิน 95 แต่สนับสนุนขายไบโอดีเซล และ แก๊สโซฮอล์มากกว่า
ส่วนธุรกิจโรงงานเอทานอล นายอนุสรณ์ กล่าวว่า บริษัทจะชะลอแผนการลงทุนหลังจากทีเห็นราคาน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการลงทุนต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ซึ่งไม่เหมาะกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่จำเป็นต้องเก็บเงินสดเป็นสภาพคล่อง หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท แต่จะยกเลิกการดำเนินโครงการนี้ จะทบทวนอีกครั้งในปีหน้า
ทั้งนี้ ในปี 52 คาดว่าราคาน้ำมันดูไบจะเฉลี่ยอยู่ที่ 55 เหรียญ/บาร์เรล แต่อาจจะมีบางช่วงเวลาที่การซื้อแบบ สปอต อาจจะเห็นสูกว่า 55 เหรียญ/บาร์เรล และอาจจะถึง 75 เหรียญ/บาร์เรล ได้ แต่มองว่าเป็นเรื่องยากที่ราคาน้ำมันจะทรงตัวในระดับสูง เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันลดลงอย่างต่อเนื่อง คาดว่าปีหน้า การใช้น้ำมันในตลาดโลกลดลง ประมาณ 1.0 - 1.5 ล้านบาร์เรล จากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาการใช้น้ำมันเติบโตต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคาดหวังว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจของอินเดีย จีน และประเทศแถบตะวันออกกลางจะช่วยกระตุ้นความต้องการใช้น้ำมันในตลาดโลก