นายประกิต ประทีปเสน รองประธานกรรมการและกรรมการอิสระ บมจ.รองเท้าบาจาแห่งประเทศไทย(BATA)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ยอดขายของ BATA ในปี 51 น่าจะเติบโตขึ้นจากปี 50 มากกว่า 10% และยังเชื่อว่าในปี 52 รายได้และยอดขายจะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
รายได้ของ BATA เกือบ 100% มาจากยอดขายในร้าน BATA โดยมีสินค้าในเครือมากมายหลายยี่ห้อครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ชายและหญิง อาทิ Bata, Bubblegummers, North Star, Power, Weinbrenner ฯลฯ
นายประกิต กล่าวยอมรับว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอยู่ในขณะนี้และยังมีปัจจัยทางการเมืองเข้ามากดดันอีกซึ่งหากสถานการณ์ต่างๆ ลากยาวไปถึงปีหน้าย่อมมีผลต่อกำลังซื้ออย่างแน่นอน แต่ในส่วนของ BATA ยังมั่นใจว่าสินค้าของ BATA น่าจะทำตลาดได้ คงจะปรับตัวในแง่ของการทำงาน บริหารงาน ประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ไม่มีการเลิกจ้างงานพนักงานอย่างแน่นอน
ส่วนกลยุทธ์การทำตลาดในปี 52 จะเน้นสินค้าดีมีคุณภาพได้มาตรฐาน และเน้นการออกสินค้ารุ่นใหม่ตลอดเวลา แต่คงไม่ปรับราคามาแข่งขัน เพราะสินค้ามีราคาถูกมากอยู่แล้ว
"สินค้า BATA ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย ราคา 300 บาท 500 บาท เชื่อว่าไม่มีปัญหาหรอก ซึ่งเรามีแผนออกสินค้าใหม่ตลอดเวลา เรามีสินค้ากว่า 1 พันรายการ มีสินค้าอื่นนอกเหนือจากรองเท้าขายบ้าง เช่น ถุงเท้า แต่ก็เป็นการประกอบ ทำให้เชื่อว่ายอดขายปีหน้าก็น่าจะยังโตต่อเนื่องจากปีนี้ แต่โตเท่าไหร่กำลังวางแผนปีหน้าอยู่"นายประกิต กล่าว
นายประกิต กล่าวว่า จากเหตการณ์ชุมนุมปิดสนามบินในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้กระทบกับการดำเนินธุรกิจมากนัก รวมทั้งวิกฤตเศรษฐกิจโลก เนื่องจากปัจจุบัน BATA ส่งออกสินค้าน้อยมากประมาณแค่ 5% แต่อาจมีผลกระทบเล็กน้อยในการนำเข้าวัตถุดิบบางส่วน เช่น พื้นรองเท้าที่ต้องนำเข้าจากประเทศจีน แต่ก็คิดเป็นสัดส่วนน้อยมาก เพราะสินค้าของ BATA ราคาค่อนข้างถูกอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น ถ้ายืดเยื้อก็ไม่ดีต่อภาพพจน์ของประเทศไทยในมุมมองในสายตาของชาวโลก หวังว่าความวุ่นวายทางการเมืองจะจบลงในเร็วๆ นี้