นายเจริญสุข วรพรรณโสภาค ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนโครงการ บมจ. จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 52 จะอยู่ที่ 3 พันล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 51 ที่คาดว่าจะมีรายได้ 2.4 พันล้านบาท ถึงแม้ว่า ปริมาณการขายน้ำดิบในปีนี้จะลดลงในปีหน้าจากปัญหาวิกฤตทางการเงินทำให้กระทบต่อธุรกิจปิโตรเคมีชะลอการลงทุน ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำลดลงไปด้วย แต่จะมีรายได้ในส่วนของน้ำประปาเข้ามาช่วย เพราะในปีหน้าบริษัทจะมีการปรับอัตราค่าน้ำเพิ่มขึ้นเป็น 9.25 บาท/ลบ.ม. จากปี 51 ที่อัตราค่าน้ำอยู่ที่ 8.50 บาท/ลบ.ม.
ส่วนแผนการลงทุนยอมรับว่ามีความระมัดระวังมากขึ้นจากผลกระทบดังกล่าว ทำให้มีบางโครงการที่เลื่อนออกไปเป็นปี 53 ได้แก่ โครงการแหล่งน้ำสำรอง ที่ จ.ระยอง ซึ่งวางงบลงทุนไว้ 90 ล้านบาท
แต่ในส่วนของแผนงานอื่นๆ เช่น งานวางท่อหนองปลาไหล-มาบตาพุด (เส้นที่ 3) มูลค่า 70 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปีหน้า แล้วเสร็จในปี 54 ซึ่งยังเป็นไปตามแผนเดิม เพื่อรองรับการใช้น้ำในอนาคตที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงการวางท่อน้ำดิบจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ ที่บริษัทมีแผนจะลงทุนเองจากปัจจุบันที่กรมชลประทานจะเป็นผู้ลงทุน ส่วนการที่จะได้รับอนุมัติหรือไม่คงอยู่ที่การอนุมัติจากรัฐบาลด้วย ซึ่งไม่รวมโครงการผลิตน้ำประปาในประเทศอินเดียและเวียดนามที่ตอนนี้ในส่วนของอินเดียคาดว่าจะมีการประกวดราคาในไตรมาส 1 ปี 52 ซึ่งจะเป็นงานรับเหมาร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น แต่ที่ประเทศเวียดนาม บริษัทจะลงทุนเอง แต่ยังไม่ได้มีการประเมินมูลค่าเงินลงทุน
ทั้งนี้ EASTW วางงบลงทุน 5 ปี (2551-2555) ไว้ 4.5 พันล้านบาท