ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดพุ่ง 172.60 จุด แม้สหรัฐเผยข้อมูลศก.ย่ำแย่

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 4, 2008 06:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 170 จุดเมื่อคืนนี้ (3 ธ.ค.) แม้ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ โดยนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นบริษัทที่สามารถรับมือกับวิกฤตการณ์เศรษฐกิจได้ อาทิ หุ้นโคคา-โคลา นอกจากนี้ นักลงทุนยังขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ขยายมาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงินภายในประเทศ

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้น 172.60 จุด หรือ 2.05% ปิดที่ 8,591.69 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 21.93 จุด หรือ 2.58% แตะที่ 870.74 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 42.58 จุด หรือ 2.94% แตะที่ 1,492.38 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.55 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 1 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 2.30 พันล้านหุ้น

ปีเตอร์ คาร์ดิลโล นักวิเคราะห์จาก Avalon Partners ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ในกรุงนิวยอร์ก กล่าวว่า ในช่วงเช้านั้นดาวโจนส์ร่วงลงหลังจาก ADP Employer Services เปิดเผยว่า นายจ้างภาคเอกชนในสหรัฐลดการจ้างงาน 250,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย.ซึ่งมากที่สุดในรอบ 7 ปี ขณะที่สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคบริการหดตัวลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพ.ย. และเฟดเปิดเผยรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ 12 เขต (Beige Book) ที่บ่งชี้ว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วสหรัฐทรุดตัวลงนับตั้งแต่ต้นเดือนต.ค.

"แต่ต่อมาในช่วงบ่าย ตลาดหุ้นนิวยอร์กเริ่มดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนกลับเข้ามาช้อนซื้อ หลังจากเฟดประกาศขยายมาตรการช่วยเหลือภาคการเงินภายในประเทศ จากเดิมซึ่งกำหนดให้สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ม.ค. เป็น 30 เม.ย." คาร์ดิลโลกล่าว

การประกาศขยายมาตรการช่วยเหลือภาคการเงินมีขึ้นหลังจากที่คณะกรรมการเฟดมีมติใช้มาตรการฟื้นฟูตลาดที่อยู่อาศัยและเพิ่มการปล่อยกู้ให้กับผู้บริโภค มูลค่ารวม 8 แสนล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งแผนการล่าสุดของเฟดครอบคลุมถึงการที่เฟดจะซื้อหนี้และหลักทรัพย์ค้ำประกันจำนองมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของสินเชื่อเพื่อการจำนอง อีกทั้งอัดฉีดเงินกู้สำหรับนักศึกษา เงินกู้เพื่อซื้อรถยนต์ และบัตรเครดิต

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) เดือนพ.ย.ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในวันศุกร์ที่ 5 ธ.ค. ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะร่วงลงอีก 320,000 คน และคาดว่าอัตราว่างงานจะพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ 6.8%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐกำลังพิจารณาแผนการยับยั้งการร่วงลงของราคาบ้าน โดยจะลดอัตราดอกเบี้ยจำนองสำหรับลูกค้าของแฟนนี เมและเฟรดดี แมค ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นแฟนนี เม ดีดขึ้น 2.4% และหุ้นเฟรดดี แมค พุ่งขึ้น 6.5%

ส่วนหุ้นโคคา-โคลา พุ่งขึ้น 5% ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่หนุนดาวโจนส์ปิดบวก ขณะที่หุ้นแมคโดนัลด์พุ่งขึ้นกว่า 4%

หุ้น Amazon.com พุ่งขึ้น 9.8%



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ