นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายต้านน้ำเมาเข้าตลาดหลักทรัพย์ 384 องค์กร กล่าวว่า ในวันนี้จะมีการหารือกันหลังจาก บมจ.ไทยเฟเวอเรจ ได้เสนอขายหุ้นเพื่อนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพราะการกระทำดังกล่าวถือเป็นการฉวยจังหวะ อาศัยช่องว่างช่วงการเมืองเกิดสูญญากาศ
พร้อมยืนยันว่า หากมีการนำ บมจ.ไทยเบฟฯ เข้าตลาดจริง ทางเครือข่ายฯ ก็สามารถกดดันให้ออกได้ถึงแม้ไม่อยากทำ เพราะมองว่าเป็นการสร้างความยุ่งยาก และกระทบกับภาพลักษณ์ของประเทศ
"ทั้งๆ ที่เราได้เตือนมาแล้ว และตลาดฯ ยืนยันว่าจะทบทวน...ถือเป็นการหลอกลวงชัดเจน...เย็นนี้จะคุยกันว่าจะไปที่ไหนก่อน" นายคำรณ กล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์จะมองว่า การที่ บมจ.ไทยเบฟฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทำให้มาร์เก็ตแคปเพิ่มมากขึ้น แต่ก็อยากให้มองภาพรวมด้วยว่า สินค้าน้ำเมาไม่ได้ช่วยสร้างมูลค่าให้กับสังคมและประชาชน
นายคำรณ กล่าวว่า อยากให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ คิดให้มากขึ้น และควรประเมินว่าการรับ บมจ.ไทยเบฟฯ เข้าตลาดหลักทรพัย์เป็นเรื่องที่คุ้มหรือไม่คุ้ม ไม่อยากให้มองแค่มาร์เก็ตแคป ที่อยากทำให้ได้ในช่วงที่ตลาดซบเซา และยังใช้ช่องว่างทางกฎหมายตอนนี้
ทางด้านนายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) กล่าวว่า ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่ได้รับแจ้งจาก บมจ.ไทยเบฟฯ แต่ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีหน้าที่ในการเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัทที่จะกระจายหุ้น หากไม่ทำก็ถือว่าเป็นการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่