ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (4 ธ.ค.) โดยหุ้นวิ่งขึ้นวิ่งลงก่อนที่จะปิดในแดนลบ ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษประกาศลดดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1951 พร้อมระบุว่า อัตราการชะลอตัวของเศรษฐกิจอยู่ในจังหวะที่เร็วขึ้น
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 6.35 จุด หรือ 0.2% แตะที่ 4,163.61 จุด หลังจากที่พุ่งขึ้นถึง 2.2% ในการซื้อขายระหว่างวัน
ที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารอังกฤษตัดสินใจลดอัตราดอกเบี้ยลง 1% สู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ โดยคณะกรรมการฯ นำโดยผู้ว่าการแบงก์ชาติอังกฤษ นายเมอร์วิน คิง กล่าวว่า ตลาดเงินและตลาดสินเชื่อยังคงเผชิญความยากลำบากสูงสุด ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจก็หยุดชะงัก
เฟลิกซ์ ไรลีย์ นักวิเคราะห์จาก ChoiceOdds บ.ในเครือ MF Global Ltd. กล่าวว่า การลดดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวไม่ช่วยแก้ปัญหาได้ ธนาคารกลางและรัฐบาลจำเป็นต้องชุบชีวิตให้กับเศรษฐกิจโดยใช้วิธีการต่างๆให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ พร้อมชี้ว่ามาตรที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้เป็นแค่ขั้นเริ่มต้นเท่านั้น
หุ้นบริษัทจัดหางานรายใหญ่ของอังกฤษ Michael Page International Plc ร่วงลง 5.7% หลังจากที่บริษัทเผยว่า ผลกำไรตลอดทั้งปีจะแตะระดับต่ำสุดตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และหุ้น Hays Plc ดิ่งลง 11%
ด้านหุ้นบริษัทเหมืองรายใหญ่อันดับ 3 ของโลกอย่าง Rio Tinto Plc ร่วง 5.3% และ Xstrata Plc ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ทรุดลง 8.8% หลังจากที่ราคาทองแดงยังปรับตัวลงต่อเนื่องยาวนานมาตั้งแต่เดือนต.ค. ท่ามกลางความกังวลที่ว่าภาวะตกต่ำของเศรษฐกิจโลกอาจรุนแรงมากขึ้น โดยสัญญาทองแดงส่งมอบสามเดือนในการซื้อขายที่ตลาดโลหะลอนดอน ร่วงลง 5% แตะ 3,275 ดอลลาร์ต่อเมตริกตัน
ขณะที่หุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัยได้รับแรงบวก นำโดยหุ้นบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ Barratt Developments Plc และ Bovis Homes Group Plc เดินหน้าขึ้นคึกคัก 9.4% และ 5.5% ตามลำดับ โดย Bovis เผยว่า บริษัทมีแผนที่จะปรับลดพนักงานเพิ่มขึ้นอีกหลังจากที่ประกาศเลย์ออฟไปแล้วถึง 40% ของพนักงานทั้งหมดเมื่อต้นปีนี้ เพราะตลาดที่อยู่อาศัยของอังกฤษซบเซาที่สุดนับตั้งแต่ต้นยุค 90