นักวิเคราะห์ในย่านวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กจะผันผวนในสัปดาห์นี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร (non farm payroll) เดือนพ.ย.ทำสถิติดิ่งลงหนักที่สุดในรอบ 34 ปีที่ระดับ 533,000 ตำแหน่ง และร่วงลงรุนแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 320,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะที่ 6.7% จากระดับ 6.5% เมื่อเดือนต.ค.
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ADP ซึ่งเป็นองค์กรที่ให้บริการด้านข้อมูลจ้างงานของสหรัฐเปิดเผยว่า บริษัทเอกชนในสหรัฐปรับลดพนักงานในเดือนพ.ย.ลงมากที่สุดในรอบ 7 ปีที่ระดับ 250,000 ตำแหน่งต่อเนื่องจากที่ร่วงลง 179,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
โธมัน ลี หัวหน้านักวิเคราะห์จากเจพีมอร์แกน กล่าวว่า "ในอีก 2-3 วันข้างหน้านี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะถูกปกคลุมด้วยกระแสความวิตกกังวลเรื่องอุตสาหกรรมรถยนต์ หลังจากทำเนียบขาวและสภาคองเกรสได้อนุมัติเงินช่วยเหลือฉุกเฉินจำนวน 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ให้แก่ค่ายรถ "บิ๊กทรี" ของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ เจนเนอรัล มอเตอร์ส คอร์ป (จีเอ็ม), ฟอร์ด มอเตอร์ โค และ ไครสเลอร์ แอลแอลซี แต่เงินจำนวนดังกล่าวยังต่ำกว่าที่ค่ายรถทั้งสามเรียกร้องมาทั้งสิ้น 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยจีเอ็มต้องการรเงินช่วยเหลือ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ฟอร์ดต้องการเงิน 9 พันล้านดอลลาร์ ส่วนไครสเลอร์เรียกร้องเงินช่วยเหลือจำนวน 7 พันล้านดอลลาร์"
"นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ในวงกว้างว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ จะสร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ผมมองว่านักลงทุนได้ซึมซับข้อมูลด้านลบในตลาดเอาไว้มากพอสมควรและจะสามารถปรับตัวกับข้อมูลด้านลบได้ ซึ่งสังเกตุได้จากดัชนีดาวโจนส์ที่ทะยานขึ้นเมื่อวันศุกร์ แม้สหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ร่วงลงอย่างหนักก็ตาม" นายลีกล่าว
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญๆที่ทางการสหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้และอยู่ในความสนใจของนักลงทุนได้แก่ วันจันทร์ สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด จะเปิดเผยดัชนีการจ้างงานเดือนพ.ย. วันอังคาร สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนต.ค. ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนต.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
วันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเตรียมเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนพ.ย. และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนธ.ค. สำนักข่าวเอพีรายงาน