นายสุชาย สุทัศน์ธรรมกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงที่เหลือของปีนี้ จะยังทรงตัว โดยนักลงทุนส่วนใหญ่จะรอดูสถานการณ์ทั้งเรื่องการเมืองภายในประเทศ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ
“วิกฤติการเมืองเริ่มผ่อนคลายลง แต่ผมมองว่ายังไม่จบ ในระยะสั้นอาจเป็นบวกที่กลุ่มพันธมิตรฯยุติการชุมนุมและคืนสนามบิน แต่โดยรวมแล้วการเมืองไทยก็ยังมีความเสี่ยง เพราะยังมีเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รวมถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) ใหม่ที่ต้องติดตามว่าจะเป็นที่ยอมรับของสังคมหรือไม่ ขณะที่ปัจจัยในต่างประเทศก็ยังละสายตาไม่ได้เช่นกัน” นายสุชายกล่าว
ขณะที่ธุรกิจหลักทรัพย์ในปีหน้ายังต้องเผชิญกับปัจจัยลบรอบด้าน และการแข่งขันในตลาดที่รุนแรงขึ้น แต่ บล.ฟิลลิป ก็มีความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาระดับส่วนแบ่งทางการตลาดให้อยู่ในระดับ 3.2-3.3% เทียบเท่ากับในปัจจุบันได้ จากจุดเด่นในเรื่องของการให้บริการซื้อขายที่ครบวงจร (One Stop Service) ที่ทันสมัยและสะดวกสบายที่สุด โดยนักลงทุนสามารถเปิดบัญชีเดียว (single account) แต่ซื้อขายได้ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ ซึ่งจากการให้บริการในช่วงที่ผ่านมา พบว่ามีลูกค้าเข้ามาเปิดบัญชีใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
“ต้องยอมรับว่า ตลาดการเงินมีสินค้าใหม่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเราสามารถทำให้ลูกค้าใช้บริการที่เดียวแต่ได้สิ่งที่ต้องการครบถ้วน เหมือนอยู่ในห้างสรรพสินค้าที่มีสินค้าให้ลูกค้าเลือกซื้อได้ทุกอย่าง ก็ถือเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ซึ่ง บล.ฟิลลิป สามารถตอบโจทย์ตรงนี้ได้ด้วยการให้บริการแบบ One Stop Service โดยนักลงทุนเปิดบัญชีเดียวก็สามารถซื้อขายได้ทั้งหุ้น อนุพันธ์ หน่วยลงทุน และลงทุนในต่างประเทศ และสามารถซื้อขายด้วยตัวเองผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่ทำให้นักลงทุนมีความสะดวก และความมั่นใจในทุกการลงทุน” นายสุชาย กล่าว