ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการในวันนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่รัฐบาลทั่วโลกประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงบารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่เตรียมใช้แผนกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค
ณ เวลา 10.28 น.ตามเวลากรุงโตเกียวในวันนี้ ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ดีดขึ้น 1% แตะที่ 83.94 จุด ขณะที่ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าบวก 40.38 จุด หรือ 0.48% แตะที่ระดับ 8,369.43 จุด และดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ดีดขึ้น 15.27 จุด หรือ 1.38% แตะที่ 1,120.32 จุด
โยชิฮิโร่ อิโตะ นักวิเคราะห์จากบริษัท โอซากัน แอสเซท เมเนจเมนท์ กล่าวกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ตลาดหุ้นเอเชียได้รับปัจจัยบวกจากรัฐบาลทั่วโลกที่ประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงโอบามาที่วางแผนกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคครั้งใหญ่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 เพื่อสร้างงานอย่างน้อย 2.5 ล้านตำแหน่งภายในปีพ.ศ.2553
ขณะเดียวกันมีรายงานว่ารัฐบาลจีนเตรียมใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่าสูงถึง 5.86 แสนล้านดอลลาร์ และรัฐบาลอินเดียที่วางแผนจัดสรรรงบประมาณเพิ่มเติม 4 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณนี้ เพื่อฟื้นฟูการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และเพื่อส่งเสริมความเชื่อมั่นหลังจากเกิดเหตุโจมตีนครมุมไบ
นอกจากนี้มีรายงานว่า นายโดนัลด์ ซัง ประธานเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเตรียมใช้มาตรการฟื้นฟูภาคธุรกิจ ด้วยการรับประกันการกู้ยืมในวงเงิน 1.29 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือบริษัทในฮ่องกง
การประกาศแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและตัวเลขจ้างงานของโอบามามีขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานสหรัฐประจำเดือนพ.ย.ทำสถิติดิ่งลงหนักที่สุดในรอบ 34 ปีที่ระดับ 533,000 ตำแหน่ง และร่วงลงแรงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 320,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานในเดือนพ.ย.พุ่งขึ้นแตะที่ 6.7% จากระดับ 6.5% เมื่อเดือนต.ค.