SIMAT อนุมัติซื้อหุ้นคืนไม่เกิน 15 ลบ. ในเวลา 6 เดือนนับจากผถห.อนุมัติ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 9, 2008 10:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. ไซแมท เทคโนโลยี (SIMAT) แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติให้ดำเนินการขออนุมัติการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืน จำนวนไม่เกิน 7,500,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในวงเงินไม่เกิน 15,000,000 บาท จำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกินร้อยละ 10 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดจากผู้ถือหุ้น กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อคืนภายในระยะเวลา 6 เดือนนับจากวันที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติโดยหนังสือเวียน

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้น เพื่อสิทธิในการอนุมัติการซื้อหุ้นคืนในวันที่ 23 ธันวาคม 2551 และบริษัทจะจัดส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติพร้อมเอกสารประกอบการพิจารณาให้ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 30 ธันวาคม 2551 โดยกำหนดให้ผู้ถือหุ้นลงมติกลับมาภายในวันที่ 7 มกราคม 2552 และ บริษัทจะรวบรวมผลของมติเวียนและแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในวั น ที่ 8 มกราคม 2552 อย่างไรก็ตามหากบริษัทรวบรวมมติได้ก่อนกำหนดก็จะดำเนินการแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทันที

เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท เพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) และเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น

ข้อมูลจากงบการเงินสอบทานเฉพาะของบริษัท งวดล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2551 กำไรสะสมของบริษัท เท่ากับ 18,872,984 บาท สินทรัพย์หมุนเวียน เท่ากับ 137,357,586 บาท หนี้สินที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน นับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน เท่ากับ 42,689,064 บาท บริษัทมีกระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงานในช่วง 9 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2551 เท่ากับ 23,804,999 บาท และมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 73,308,692 บาท (ซึ่งรวมเงินสดที่ได้จากการ IPO คงค้างจำนวน 39,274,854 บาท) ดังนั้น หากประเมินจากเงินสดในมือขณะนี้ ประกอบกับแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของกระแสเงินสดจากการดำเนินงานบริษัทยังคงมีสภาพคล่องเพียงพอในการชำระหนี้ที่จะถึงกำหนดภายใน 6 เดือนนับแต่วันที่จะซื้อหุ้นคืน

จำนวนผู้ถือหุ้นสามัญรายย่อย (Free Float) ณ วันปิดสมุดทะเบียนล่าสุด เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2551 เท่ากับ 18,751,440 หุ้น หรือร้อยละ 25 ของทุนชำระแล้วของบริษัท

ผลกระทบภายหลังซื้อหุ้นคืนต่อผู้ถือหุ้น คือ จะทำให้อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้นสูงขึ้นและผู้ถือหุ้นจะได้รับเงินปันผลต่อหุ้นสูงขึ้น ผลกระทบต่อบริษัท คือ มีแนวโน้มที่กระแสเงินสดของบริษัทจะลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ