ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) หลังจากที่การซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐที่คาดว่าจะยังไม่สามารถแก้ไขได้ในเร็ววันนี้ นอกจากนี้ ข่าวบริษัทเฟดเอ็กซ์ประกาศรับลดคาดการณ์รายได้ประจำปีงบประมาณ 2552 ลงก็มีส่วนฉุดตลาดร่วงลงเช่นกัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 242.85 จุด หรือ 2.72% แตะที่ 8,691.33 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 21.03 จุด หรือ 2.31% แตะที่ 888.67 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลบ 24.40 จุด หรือ 1.55% แตะที่ 1,547.34 จุด
เฟดเอ็กซ์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการขนส่งสินค้ารายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ได้ประเมินไว้ โดยให้เหตุผลเรื่องเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง บริษัทคาดว่า กำไรต่อปีอาจจะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ถึง 1 ใน 3
คอน-เวย์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการรถบรรทุกรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ก็ได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ตลอดทั้งปีนี้ลงเช่นกัน เนื่องจากคาดว่า ความต้องการในการขนส่งสินค้าจะร่วงลง นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปรับลดพนักงานลง 1,450 ราย
นักลงทุนกังวลว่า การที่บริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐต่างพากันปรับลดคาดการณ์รายได้ลงนั้น จะเป็นการส่งสัญญาณให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐยากที่จะฟื้นตัวขึ้น
เฮนรี เฮอร์แมน ซีอีโอของวอดเดล แอนด์ รีด ไฟแนนเชียล กล่าวว่า นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังจับตาเกี่ยวกับการเจรจาต่อรองเพื่ออนุมัติเงินช่วยเหลือค่ายรถกลุ่มบิ๊กทรีของสหรัฐ ที่คาดว่าอาจจะมีข้อตกลงออกมาอย่างเร็วสุดในวันพุธตามเวลาในสหรัฐ
หุ้นจีเอ็ม ร่วง 23 เซนต์ หรือ 4.7% ปิดที่ 4.70 ดอลลาร์ ส่วนหุ้นฟอร์ด ตกลง 15 เซนต์ หรือ 4.4% ปิดที่ 3.23 ดอลลาร์
หุ้นเฟดเอ็กซ์ ดิ่ง 10.78 ดอลลาร์ หรือ 14.5% ปิดที่ 63.65 ดอลลาร์ หลังจากที่บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์รายได้ประจำปีงบประมาณ 2552 ลง ส่วนหุ้นบริษัทคู่แข่งอย่างยูไนเต็ด พาร์เซิล เซอร์วิส ร่วง 4.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.51 ดอลลาร์
หุ้นคอน-เวย์ ดิ่ง 14% แตะ 22.19 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี