ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กแรงซื้อหุ้นพลังงาน หนุนดาวโจนส์ปิดบวก 70.09 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 11, 2008 06:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นกว่า 70 จุดเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มบริษัทผลิตวัตถุดิบ หลังจากราคาทองคำและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าสภาคองเกรสเห็นชอบในหลักการของมาตรการช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ แต่นักลงทุนจำนวนหนึ่งกังวลว่ามาตรการดังกล่าวอาจถูกคัดค้านจากพรรครีพับลิกัน

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 70.09 จุด หรือ 0.81% แตะที่ 8,761.42 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 10.57 จุด หรือ 1.19% แตะที่ 899.24 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 18.14 จุด หรือ 1.17% แตะที่ 1,565.48 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 1.31 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 2 ต่อ 9 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 1.99 พันล้านหุ้น

จอห์น เมอร์ริลล์ นักวิเคราะห์จากบริษัท แทงเกิลเวลธ์ เมเนจเมนท์ กล่าวว่า บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กคึกคักขึ้นหลังจากมีข่าวว่าทำเนียบขาวและพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสได้บรรลุข้อตกลงในหลักการเกี่ยวกับข้อเสนอเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ โดยแผนการดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายให้บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และไครส์เลอร์ สามารถหลีกเลี่ยงการล้มละลาย และสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้จนถึงเดือนมี.ค. ขณะที่ฟอร์ด มอเตอร์ ไม่ได้เรียกร้องความช่วยเหลือในทันที แต่ต้องการสินเชื่อในกรณีที่การเงินของทางบริษัทย่ำแย่ลงเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางกลุ่มกังวลว่าแผนการดังกล่าวอาจถูกคัดค้านจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งความกังวลในเรื่องนี้ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเพียงระดับปานกลาง นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กค่อนข้างซบเซาหลังจากธนาคารโลกคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัวเพียง 0.9% ในปีหน้า จากระดับ 2.5% ในปี 2551 พร้อมกับเตือนว่าเศรษฐกิจโลกอาจตกอยู่ในภาวะถดถอยยาวนานและรุนแรง

ริชาร์ด คริปส์ นักวิเคราะห์จากบริษัท สตีเฟล นิโคลาส์ กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้เข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มบริษัทผลิตวัตถุดิบ ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าหากรัฐบาลสหรัฐช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศก็จะช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย

ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 34.70 ดอลลาร์ แตะที่ 807.10 ดอลลาร์/ออนซ์ เพราะได้รับปัจจัยบวกจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้น 1.45 ดอลลาร์ แตะที่ 43.52 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งการพุ่งขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้ช่วยหนุนหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดีดตัวขึ้น 2.4% ขณะที่หุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอร์แกน คอปเปอร์ แอนด์ โกลด์ ทะยานขึ้น 16%

หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (เอไอจี) ร่วงลง 9.3% หลังจากมีรายงานว่าเอไอจีกำลังวางแผนหลีกเลี่ยงการขาดทุนที่คาดว่าจะสูงถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นซิติกรุ๊ปรูดลง 2.8% หุ้นเจพีมอร์แกน ดิ่งลง 1.3% หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ดิ่งลง 7.4%

ทั้งนี้ แม้มีรายงานว่าสภาคองเกรสเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับแผนให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐ แต่หุ้นจีเอ็มกลับร่วงลง 2.1% และหุ้นฟอร์ด ดิ่งลง 0.6%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ