ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ธ.ค.) หลังจากมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่า ยอดค้าปลีกของอังกฤษในช่วงเทศกาลคริสต์มาสจะทรุดตัวลงหนักสุดในรอบหลายปี และหลังจากหน่วยงานของรัฐฐาลอังกฤษเตือนว่า เศรษฐกิจอังกฤษไตรมาส 3 จะหดตัวลงรวดเร็วที่สุดในรอบ 13 ปี
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 13.98 จุด แตะระดับ 4,367.28 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,329.95-4,407.13 จุด
ลีโอ รัทท์ นักวิเคราะห์จากบริษัท สแตนฟอร์ด กรุ๊ป (สวิส) เอจี กล่าวว่า "ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นลอนดอนซบเซาอย่างหนัก หลังจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของอังกฤษคาดการณ์ว่า ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3 ของอังกฤษจะหดตัวลง 1% และจะหดตัวลงอีกในช่วงไตรมาส 4 ซึ่งจะทำสถิติทรุดตัวลงรวดเร็วสุดในรอบ 13 ปี"
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับปัจจัยลบการที่ เฟรด เยลแลนด์ นักวิเคราะห์ของมอร์แกน สแตนลีย์ คาดการณ์ว่ายอดค้าปลีกของอังกฤษในช่วงเทศกาลคริสต์จะทรุดตัวลงหนักสุดในรอบหลายปี ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ หุ้นเคซา อิเล็กทริคอล ร่วงลงกว่า 5% และหุ้นโคเม็ท ดิ่งลง 6.4%
หุ้นริโอทินโต ดีดขึ้น 20% หลังจากมีรายงานว่าริโอทินโตกำลังลดพนักงานลง 14,000 ตำแหน่ง และวางแผนที่จะลดการใช้จ่ายลง 5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นวิลเลียม มอร์ริสัน ปิดบวก 5.1% หลังจากเจพีมอร์แกน ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนของหุ้นดังกล่าวขึ้นสู่ระดับ “overweight" เนื่องจากยอดขายของวิลเลียม มอร์ริสัน แข็งแกร่ง