นายสมชาย คุลีเมฆินทร์ กรรมการผู้จัดการ บมจ. โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ (GC) คาดว่า ยอดขายในปีหน้าคงจะลดลงมาที่ 3 พันล้านบาท จากผลกระทบวิกฤตทางการเงินและเศรษฐกิจที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากครึ่งปีหลังของปี 51 ลากยาวไปในปี 52 ขณะที่ในปีนี้ยอดขายคงจะลดลงมาที่ 3.5-3.6 พันล้านบาท จากเดิมที่ตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขาย 3.8 พันล้านบาท
นอกจากนี้ กำลังซื้อที่ลดลงและราคาต่อหน่วยของสินค้าก็ลดลงด้วยโดยเฉพาะในครึ่งหลังของปี 51 ทำให้ลูกค้าได้รับผลกระทบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้า SMEs
อย่างไรก็ตาม จากผลกระทบดังกล่าว ทำให้บริษัทปรับแผนในการเพิ่มสัดส่วน สินค้าพลาสติกโภคภัณฑ์ (BU1) ซึ่งเป็นสินค้าโภคภัณฑ์มาอยู่ที่ 70% จากเดิม(พ.ย.51) อยู่ที่ 50% และ สินค้าพลาสติกวิศวกรรม และ สินค้าพลาสติกเคมีภัณฑ์ (BU2 และ BU3) ซึ่งเป็นสินค้าเอ็นจิเนียริ่งลดลงมาอยู่ที่ 30% จากเดิมที่ตั้งใจจะเพิ่มสัดส่วนในส่วน 45-50%
เนื่องจากมองว่า สินค้าโภคภัณฑ์ยังเติบโตได้ ซึ่งเห็นได้จากการบริโภคภายในประเทศยังมีอยู่ แต่ในส่วนของเอ็นจิเนียริ่งการปรับลดลงนั้น เพราะเห็นสัญญาณจากที่ผู้ผลิตรถยนต์ในปีหน้าที่จะลดลง 230-25% จากปีนี้ที่ 1.2 ล้านคัน รวมถึงในปีหน้า บริษัทจะเน้นการบริหารคงคลังให้สมดุล เพราะในช่วงที่ผ่านมา สามารถบริหารสต๊อกได้ดี รวมถึงการลดต้นทุนเพื่อรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Prifit Margin) ให้ได้ที่ 7% ถึงแม้จะลดลงไปบ้างจากปีนี้ที่ 7% กว่า ขณะที่อัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) จะให้สูงกว่า 3% "ปีหน้าเราคงต้องปรับตัวภายใต้ความเสี่ยงที่เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น การที่เราปรับตัวได้ก่อนก็จะเป็นผลดีกับเรา และการที่เราหันมาเพิ่มสัดส่วน BU1 ถึงแม้จะมีมาร์จิ้นน้อยกว่า BU2 และ BU3 แต่ก็จะอาศัยสร้างวอลุ่มชดเชย เพราะเราเห็นสัญญาณจาก BU2 และ BU3 ที่ไม่ดี แต่ในขณะเดียวกันเราก็จำเป็นหาสินค้ามาเพิ่มเติมด้วย"นายสมชาย กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าบริษัทจะจัดตั้งแผนกเครดิต อินชัวรันส์ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ลูกค้า อีกทั้งเป็นการป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน เพราะจากผลกระทบอาจทำให้ลูกค้าไม่สามารถชำระได้ตามกำหนด
ปัจจุบัน มีวงเงินเครดิตจากธนาคารพาณิชย์ เหลือ 65% และจะรักษาอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) ที่ 1.7-1.8 เท่า