ที่ประชุมคณะกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท.เห็นชอบให้ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายและค่าเสียโอกาสทางธุรกิจจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยประเมินความเสียหายเบื้องต้นไว้ 540 ล้านบาท จากการปิดสนามบินสุวรรณภูมิ-ดอนเมือง 9 วัน และผลจากการชุมนุมดังกล่าวฉุดอัตราการเติบโตของผู้โดยสารปี 52 ต่ำกว่า 1%
นายเสรีรัตน์ ประสุตานนท์ รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ AOT กล่าวว่า ได้รายงานให้ที่ประชุมฯ รับทราบความเสียหายจากการปิดให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมืองเป็นเวลา 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ย.-4 ธ.ค.51 โดยพบว่า ทอท.ได้รับความเสียหายเบื้องต้นคิดเป็นมูลค่า 540 ล้านบาท หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 60 ล้านบาท แบ่งเป็น ความเสียหายของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิวันละกว่า 50 ล้านบาท ท่าอากาศยานดอนเมืองวันละกว่า 4 ล้านบาท และท่าอากาศยานในภูมิภาคบางแห่งอีกวันละ 4 ล้านบาท
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้สั่งการให้ ทอท.ดำเนินการตามกฎหมาย โดย ทอท.จะพิจารณารายละเอียดมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งค่าเสียโอกาสจากการดำเนินธุรกิจในอนาคต เพื่อนำไปฟ้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป โดยฝ่ายกฏหมายจะหารือกับผู้แทนจากสำนักงานอัยการสูงสุดที่มีความเชี่ยวชาญในคดีแพ่ง เพื่อพิจารณาว่าจะฟ้องกลุ่มแกนนำพันธมิตรฯ หรือจะฟ้องในลักษณะใด โดยคาดว่าจะดำเนินการฟ้องร้องได้ในเดือน ม.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม ทอท.คาดว่าผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารในปี 52 ลดลงต่ำกว่า 1% จากปกติที่มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.5% ซึ่งที่ประชุมฯ ได้สั่งการให้ ทอท.จัดทำรายละเอียดแผน WORKSHOP ในการเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย เช่น การเร่งพัฒนาพื้นที่ 1 พันไร่ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ หรือพื้นที่แปลง 37 โดยคาดว่าจะเสนอให้คณะกรรมการ ทอท.พิจารณาได้ในเดือน ม.ค.นี้
ก่อนหน้านี้ ทอท.ได้ประเมินภาพรวมของปี 52 คาดว่าอัตราการเติบโตของปริมาณผู้โดยสารจะอยู่ประมาณ 1% เพราะผลจากราคาน้ำมันและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แต่เมื่อมีเหตุการณ์ปิดท่าอากาศยานเกิดขึ้นส่งผลให้อัตราการเติบโตลดลงต่ำกว่า 1% แต่จะถึงขั้นติดลบหรือไม่นั้นต้องรอดูตัวเลขผลประกอบการในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 52 ก่อน โดยปัจจุบันปริมาณเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่กลับคืนสู่ภาวะปกติ โดยมีเที่ยวบินวันละ 584 เที่ยวบิน จากปกติที่มีเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 700 เที่ยวบิน
นอกจากนี้ ทอท.ยังอยู่ระหว่างการพิจารณามาตรการช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการ เพื่อลดผลกระทบจากการปิดท่าอากาศยาน โดยเบื้องต้นจะลดค่าธรรมเนียมการขึ้น-ลงและการจอดอากาศยานให้กับสายการบิน ส่วนจะลดมากน้อยเพียงใดจะต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง ส่วนมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการจะใช้วิธีลดอัตราค่าเช่าพื้นที่และค่าผลตอบแทน โดยคาดว่าจะมาตรการดังกล่าวจะประกาศใช้ในเดือน ม.ค.นี้
ส่วนในช่วงที่ท่าอากาศยานปิดให้บริการนั้น ทอท.จะยกเว้นการเรียกเก็บค่าเช่าพื้นที่และผลตอบแทนจากผู้ประกอบการในช่วงระยะเวลาดังกล่าว โดยปัจจุบัน ทอท.มีรายได้จากผู้ประกอบการหลักคือกลุ่มคิงเพาเวอร์ คิดเป็นเงินวันละ 8.5 ล้านบาท