นายสุรชัย ธารสิทธิ์พงษ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานกรรมการ บมจ.การบินไทย(THAI) กล่าวว่า ในวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้บริษัทกู้เงินจำนวน 1.7 หมื่นล้านบาทเพื่อเสริมสภาพคล่อง โดยคาดว่าจะกู้ระยะสั้นจำนวน 3 พันล้านบาทก่อน ซึ่งเจรจากับธนาคารพาณิชย์อยู่ คาดว่าได้เงินราวไตรมาส 1/52
"เดิมคณะกรรมการฯ ต้องการให้กู้เงินระยะยาวทั้งหมด แต่เนื่องจากการดำเนินการกู้เงินต้องใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ดังนั้นระหว่างนี้จึงให้กู้เงินระยะสั้นส่วนหนึ่งก่อน โดยคาดว่าจะได้รับเงินในช่วงไตรมาส 1 ปี 2552 และยืนยันว่าการบินไทยยังมีฐานะการเงินเข้มแข็ง" นายสุรชัย กล่าว
ส่วนที่เหลือจะกู้ระยะยาว เพื่อนำเงินมาชำระค่าเครื่องบิน และเสริมสภาพคล่อง ซึ่งบริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัว และปัญหาความวุ่นวายในประเทศ ทำให้ผู้โดยสารและรายได้ลดลงไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติกู้เงินอีกส่วนจำนวน 1.9 หมื่นล้านบาท เพื่อชดเชยผลกระทบการปิดสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ซึ่งอาจจะเป็นการขอให้รัฐเข้ามาช่วยเหลือด้วย
พร้อมกันนี้ คณะกรรมการฯ ยังอนุมัติให้มีการขายอะไหล่เครื่องยนต์เครื่องบิน มูลค่า 8.9 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคณะกรรมการฯ เห็นว่าเป็นราคาที่เหมาะสม เพราะเป็นราคาที่สูงกว่ามูลค่าตามบัญชี
นายสุรชัย กล่าวต่อว่า คณะกรรมการยังมอบหมายให้ฝ่ายบริหารไปเจรจาต่อรองอัตราค่าเช่าเครื่องบิน แอร์บัส A 300 จำนวน 2 ลำ ที่จะสิ้นสุดสัญญาเช่าในต้นปี 52 จากลำละ 4.1 แสนดอลลาร์/ปี หรือประมาณ 14 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากเดิมที่เช่าในอัตราลำละ 9 แสนดอลลาร์/ปี หรือประมาณ 31 ล้านบาท คณะกรรมการฯ เห็นว่าอัตราค่าเช่าน่าจะลดลงอีก เพราะปัจจุบันอำนาจการต่อรองเป็นของผู้เช่า ส่วนอายุสัญญาเช่าจะอยู่ที่ 9 ปี
ที่ประชุมฯ ยังได้แต่งตั้งนายสมิทธิ พิรุณสาร ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนการผลิตและการจัดหาสินค้า เป็นกรรมการผู้จัดการฝ่ายครัวการบิน นายเล็ก กลิ่นวิบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายควบคุมบริการภาคพื้น เป็นกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริการลูกค้าภาคพื้น นายพฤทธิ์ บุปผาคำ ผู้อำนวยการฝ่ายภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย เป็นกรรมการผู้จัดการฝ่ายการพาณิชย์สินค้าและไปรษณียภัณฑ์ และนางชาริตา ลีลายุทธ ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีบริหาร เป็นผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบัญชีบริหารและงบประมาณ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค.นี้เป็นต้นไป
ด้าน พล.อ.อ.ณรงค์ศักดิ์ สังขพงษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ปฏิบัติหน้าที่แทนกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ THAI กล่าวว่า ตัวเลขการสำรองที่นั่งของผู้โดยสารเส้นทางยุโรป เริ่มเพิ่มขึ้นใกล้กับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยขณะบริษัทฯ จัดเที่ยวบินเป็นสัดส่วนประมาณ 80% ของเที่ยวบินที่เคยทำการบินก่อนที่จะเกิดเหตุปิดท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เชื่อว่าหลังจากวันที่ 15 ธ.ค.จำนวนผู้โดยสารในเส้นทางยุโรปจะกลับสู่ภาวะปกติ
ส่วนเส้นทางในภูมิภาคเอเชียยังไม่เพิ่มขึ้นมากนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวเดินทางเป็นกรุ๊ป ซึ่งยกเลิกค่อนข้างมาก ไม่เหมือนนักท่องเที่ยวเส้นทางยุโรปที่เดินทางเป็นครอบครัว และวางแผนเดินทางไว้ล่วงหน้าจึงไม่ยกเลิกการเดินทาง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทฯ วางแผนจัดเที่ยวบินเป็นแผนระยะสั้นประมาณ 10-15 วัน ก็จะมีการทบทวนแผนการบินเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณผู้โดยสาร ซึ่งจะต้องจับตาดูปริมาณผู้โดยสารในเดือน ก.พ.-มี.ค.52 ซึ่งไม่ใช่ช่วงฤดูการท่องเที่ยวว่าผู้โดยสารจะเป็นอย่างไร