บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์(WORK)ปรับใหญ่รูปแบบรายการทีวีในมือรับเศรษฐกิจทรุดตัวปี 52 อาจยกเลิกบางรายการ หันเน้นงานอีเว้นท์เพิ่มสัดส่วนรายได้ ลุ้นผลเจรจางานใหญ่ต้นปี หลังจากปี 51 เห็นผลกระทบเม็ดเงินโฆษณาทีวีชะลอตัวและหนังใหญ่ไม่ทำเงินตามคาด ส่งผลทำให้รายได้รวมพลาดจากเป้า 1.5 พันล้านบาท
"ปีนี้รายได้ของบริษัทต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ หลังจาก 9 เดือนแรกทำรายได้แค่ 1 พันล้านบาทเท่านั้น เป็นผลจากเม็ดเงินโฆษณาลดลง รวมทั้งรายได้จากธุรกิจภาพยนตร์ต่ำกว่าเป้าหมาย"แหล่งข่าวจาก WORK กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"
ปัจจุบัน WORK มีรายการโทรทัศน์รวม 18 รายการ คิดเป็นเวลา 1,270 นาที/สัปดาห์
แหล่งข่าว กล่าวว่า ในปี 52 บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะทำรายได้สูงขึ้นจากปีนี้ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะมีรายการโทรทัศน์ประมาณ 17-18 รายการ คิดเป็เวลา 1,200-1,300 นาที/สัปดาห์ โดยอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงรูปแบบรายการและยกเลิกรายการ 2-3 รายการ เนื่องจากคาดว่าธุรกิจโทรทัศน์ในปีหน้าจะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวมากขึ้น
ด้านธุรกิจภาพยนต์ในปีหน้าจะมีภาพยนตร์ 2 เรื่อง คาดว่าจะเข้าฉายช่วงเดือนพ.ค.1 เรื่อง และในช่วงปลายปีหน้าอีก 1 เรื่อง ซึ่งบริษัทยังคงร่วมผลิตกับบริษัทสหมงคลฟิล์มเช่นเดิมทั้ง 2 เรื่อง
แหล่งข่าว กล่าวว่า สัดส่วนรายได้ของบริษัทในปีหน้ายังคงมาจากธุรกิจโทรทัศน์ 80-90% และที่เหลือเป็นรายได้จากธุรกิจอีเว้นท์ สิ่งพิมพ์ และรายได้จากการรับจ้างผลิตละคร โดยคาดว่าจะมีงานรับจ้างผลิตละครประมาณ 3 เรื่องใกล้เคียงกับปีนี้ที่ประสบความสำเร็จ จากเรื่องศิลามณีทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และว้าวุ่นรุ่นเล็กที่ได้เวลาจาก TPBS
บริษัทปรับกลยุทธที่จะพยายามสร้างรายได้เพิ่มเติมจากธุรกิจอีเว้นท์ภายหลังการเปิดบริษัทใหม่ บริษัท ซิกซ์เนเจอร์ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด โดยขณะนี้บริษัอยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจัดงานขนาดใหญ่ 1 งาน คาดว่าจะได้ข้อสรุปช่วงต้นปี 52 เป็นงานไลฟ์โชว์ขนาดใหญ่ หลังจากที่บริษัทมีงานสตรีทโชว์ที่จะจัดขึ้นระหว่าง 19-21 ธ.ค.51 ที่สวนลุมพีนี
นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะสร้างละครเวทีอีก 2 เรื่องในปี 52 นอกจากแผนจัดคอนเสิร์ตและทอล์คโชว์อย่างน้อย 1-2 งาน ทำให้ภาพรวมรายได้ปี 52 น่าจะออกมาดีกว่าปี 51 แม้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะส่งผลต่อธุรกิจผลิตรายการโทรทัศน์ แต่เชื่อว่าการหันมารุกธุรกิจที่หลากหลายจะช่วยสร้างรายได้ให้กับบริษัทเพิ่มมากขึ้นได้
“ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตัวเลขรายได้ที่ชัดเจนในปี 52 เพราะภาวะเศรษฐกิจโดยรวมไม่ดีนักแต่บริษัทเพิ่งเปิดบริษัทลูกใหม่ 2 แห่ง คือ ซิกซ์เนเจอร์ ที่ทำธุรกิจจัดงานอีเว้นท์ และกำกับการดีที่รับจ้างผลิตละครเชื่อว่าจะเป็นส่วนสร้างรายได้เพิ่มให้กับบริษัทได้รวมทั้งยังรอลุ้นงานใหญ่อีก 1 งานที่เจรจาอยู่คาดได้ข้อสรุปต้นปี 52 หากได้จะสร้างรายได้และกำไรที่ดีให้กับบริษัทด้วย"แหล่งข่าว กล่าว