ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 417.59 จุด ลดลง 7.02 จุด(-1.65%) มูลค่าการซื้อขาย 7,325 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีเปิดตลาดขึ้นแดนลบ โดยแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ 413.57 จุด และแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 426.07 จุด
น.ส.จิตรา อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงจากปัจจัยในนอก ต่างประเทศแผนช่วยเหลือค่ายรถยนต์ถูกปฏิเสธจากที่ประชุมวุฒิสภาสหรัฐเป็นปัจจัยลบ รวมทั้ง ตลาดมีการขายทำกำไร(take profit) มีผลบ้าง
แต่สำหรับปัจจัยในประเทศน้ำหนักไม่น่าจะมากเท่ากับในเรื่องของการเมือง เพราะแผนรถยนต์ก่อนหน้านี้ในช่วงปลายสัปดาห์ต่อเนื่องถึงจันทร์-อังคาร ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐล้วนแล้วแต่ไม่ดีแต่ปรากฎว่าดัชนีดาวโจนส์พุ่งสวนวันละหลายเปอร์เซนต์ แป็นเพราะมีการเก็งกำไรว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกืจที่จะมีการอนุมัตินโยบายของค่ายรถยนต์ แต่พอออกมาไม่เป็นไปตามคาดก็ไม่เทขาย
นอกจากนี้ เรื่องจะเปืดสภาวันจันทร์ที่ 15 ธ.ค.และเลือกนายกรัฐมนตรีรนั้นเป็นที่รับทราบกันในตลาดระดับหนึ่ง พอได้ตัวนายกฯ แล้วก็จะมี sale on fact ก่อนหลังจากนั้นก็มาดูสภาพเศรษฐกิจอีกทีซึ่งไม่ดี
ประกอบกับ ในวันเสาร์-อาทิตยี์นี้มีโฟนอินจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีด้วย ซึ่งประเด็นนี้นักลงทุนก็เตรียมระวัง โดยที่มีการเก็งกำไรมาก่อนหน้านี้ก็ขาย รวมทั้งการเพิ่มทุนของบริษัทหลักทรัพย์เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ (TSFC)ยังไม่ได้ข้อยุติ แต่การเพิ่มทุนจะล้มไม่ได้ ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ที่จะต้องใส่เงินเพิ่มทุนเข้ามาจะหาเงินที่ไหนมาลงทุนเป็นอีกประเด็นหนึ่ง วันนี้มีแต่ปัจจัยที่ไม่ดีต่อตลาด
ทิศทางช่วงบ่ายน่าจะเป็นแดนลบจนถึงปืดตลาด อาจจะไหลไปเรื่อยๆ แต่คงไม่หลุด 400 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,110.71 ล้านบาท ปิดที่ 168.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 982.79 ล้านบาท ปิดที่ 204.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 460.84 ล้านบาท ปิดที่ 103.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CK มูลค่าการซื้อขาย 330.51 ล้านบาท ปิดที่ 3.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.34 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 310.21 ล้านบาท ปิดที่ 43.25 บาท ลดลง 0.75 บาท