ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ธ.ค.) หลังจากรัฐบาลสหรัฐกล่าววว่าจะพยายามให้ความช่วยเหลือบริษัทผลิตรถยนต์ที่ประสบปัญหา ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความตื่นตระหนก หลังจากวุฒิสภาสหรัฐมีมติไม่ผ่านแผนให้ความช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 64.59 จุด หรือ 0.75% แตะระดับ 8,629.68 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดีดขึ้น 6.14 จุด หรือ 0.70% แตะระดับ 879.73 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 32.84 จุด หรือ 2.18% แตะที่ 1,540.72 จุด
แมท คิง หัวหน้านักวิเคราะห์จากบริษัท เบลล์ อินเวสท์เมนท์ แอดไวเซอร์ส กล่าวกับสำนักข่าวเอพีว่า ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 200 จุดในช่วงเปิดทำการซื้อขาย เนื่องจากนักลงทุนตื่นตระหนกกับข่าวที่ว่าวุฒิสภาสหรัฐมีมติไม่อนุมัติแผนการให้ความช่วยเหลือบริษัทผลิตรถยนต์ในสหรัฐมูลค่า 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ด้วยการโหวตลงคะแนน 52-35 เสียง ส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลในตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียและยุโรป
"วุฒิสภามีมติคว่ำแผนดังกล่าวในนาทีสุดท้าย แม้ก่อนหน้านี้สภาผู้แทนราษฎสหรัฐมีมติผ่านแผนการดังกล่าวด้วยการลงคะแนนเสียง 237-170 ไปก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม ซึ่งการตัดสินใจเช่นนี้อาจทำให้บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) และไครสเลอร์ เสี่ยงที่จะล้มละลาย ขณะที่ศูนย์วิจัยอุตสาหกรรมยานยนต์ของสหรัฐประเมินว่า จะมีคนตกงานทั้งสิ้น 2.5-3.5 ล้านคนในปีหน้าเนื่องจากการล้มละลายของบริษัทรถยนต์" นายคิงกล่าว
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายเริ่มฟื้นตัวขึ้น เมื่อนักลงทุนให้น้ำหนักกับข่าวที่ว่าคณะทำงานของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช จะประเมินทางเลือกในหลายๆด้าน หลังจากวุฒิสภาตัดสินใจคว่ำแผนนี้ และแม้ว่าการพิจารณาเรื่องร่างกฎหมายเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมรถยนต์ของสหรัฐในสภาคองเกรสได้จบลงแล้วในปีนี้ แต่คาดว่านายเฮนรี่ พอลสัน รมว.คลัง อาจจะนำเงินทุนในโครงการลดสินทรัพย์ที่มีปัญหาในอุตสาหกรรมรถยนต์ (TARP) มาช่วยเหลือบริษัทรถยนต์ ขณะที่ นักวิเคราะห์บางกลุ่มเชื่อว่าประธานาธิบดีบุชอาจนำเงินบางส่วนจากมาตรการฟื้นฟูภาคการเงิน 7 แสนล้านดอลลาร์ มาช่วยกู้วิกฤติในครั้งนี้ด้วย
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับผลกระทบจากข่าวที่ว่านายเบอร์นาร์ด มาดอฟฟ์ อดีตประธานกรรมการตลาดหุ้น Nasdaq ถูกตำรวจจับกุมตัวในข้อหาเป็นผู้จัดการแชร์ลูกโซ่ (Ponzi scheme) วงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยปัจจุบันมาดอฟฟ์ยังคงมีตำแหน่งเป็นสมาชิกในคณะกรรมการสรรหาของบริษัท แนสแดค โอเอ็มเอ็กซ์ กรุ๊ป อิงค์ ทั้งนี้ มาดอฟฟ์เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัท เบอร์นาร์ด แอล. มาดอฟฟ์ อินเวสท์เมนท์ ซีเคียวริตีส์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจด้านมาร์เก็ตเมคเกอร์ (การเสริมสภาพคล่องในตลาด) ที่เขาก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2503
นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 16 ธ.ค. โดยมีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมครั้งนี้ อีกทั้งจับตาดูการเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทในย่านวอลล์สตรีท โดยนักลงทุนส่วนใหญ่กังวลว่าตลาดหุ้นที่ทรุดตัวลงและเศรษฐกิจที่เข้าสู่ภาวะถดถอย จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผลประกอบการในภาคเอกชนด้วย
หุ้นจีเอ็มร่วงลง 4.4% ขณะที่หุ้นฟอร์ดปิดบวก 4.8% หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ดีดขึ้น 2 เซนต์ ปิดที่ 14.93 ดอลลาร์