นายนาเซียร์ ราซัค ประธานบริหารกลุ่ม CIMB ในเครือภูมิบุตร-คอมเมิร์ซ ของมาเลเซีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ CIMB ได้เตรียมเงินในการเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของธนาคารไทยธนาคาร(BT) ราว 2 หมื่นล้านบาท ทั้งการตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้น(เทนเดอร์ ออฟเฟอร์) ราว 1.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งทางกลุ่ม TPG ก็ยืนยันที่จะขายหุ้นแล้ว และการเพิ่มทุนประมาณ 5-6 พันล้านบาท
CIMB คาดว่าจะใส่เงินเพิ่มทุนเข้าไปใน BT ช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.52 ซึ่งจะทำให้ CIMB ถือหุ้น BT เต็ม 100% จากปัจจุบันที่ถือ 42.13% และคาดว่าคงจะเพิกถอนออกจากการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายนาเซียร์ กล่าวว่า การเข้ามาเทคโอเวอร์ BT จะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างทั้งหมดใหม่ ทั้งด้าน Operation และ Management โดยจะมีการหากรรมการผู้จัดการใหม่เข้ามาทำงานแทนนายพีรศิลป์ ศุภผลศิริ และทีมงานอื่นๆ รวมถึงการวางแผนการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต
ทั้งนี้ ภายใน 2-3 ปีเชื่อว่า BT จะกลับมาเป็นผู้นำด้านสินเชื่อธุรกิจและตลาดทุนได้ แต่คงยังไม่สามารถตั้งเป้าส่วนแบ่งการตลาด(มาร์เก็ตแชร์)ได้ในขณะนี้
"พร้อมที่จะซื้อทั้งหมด หากใครต้องการที่จะขาย แต่ทั้งนี้ก็จะต้องอยู่ที่ผู้ถือหุ้นและถ้าเราได้ตามที่วางไว้ก็คงจะต้อง delist ออกจากตลาดตามปกติ การเข้ามาของเราไม่ใช่เพียงเข้ามาลงทุนแต่จะมา Operate ด้วย"นายนาเซียร์ กล่าว
นายนาเซียร์ คาดว่าในปี 52 คงจะเห็น BT กลับมามีกำไรจากการดำเนินงาน จากปีนี้ที่ยอมรับว่ายังมีขาดทุนอยู่แน่นอน เพราะยังได้รับผลกระทบจาก CDO จึงทำให้ไม่สามารถลงทุนและปล่อยสินเชื่อได้ และหากสามารถเคลียร์ CDO ก็มั่นใจว่าจะเห็นกำไรสุทธิอย่างแน่นอน แต่คงจะใต้องใช้เวลา 2-3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ หลังจาก BT เพิ่มทุนแล้วคงจะมีเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง(BIS)ที่ระดับ 15-16% และในช่วงแรกคงจะให้ความสำคัญด้าน Corporate และตลาดทุนก่อนเพราะมีความถนัด ส่วนรายย่อยคงจะต้องใช้เวลา นอกจากนี้จะนำผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นเครือข่าย CIMB มาทดลองตลาดในประเทศไทยด้วย
พร้อมยืนยันว่า การเข้ามาของ CIMB ในครั้งนี้จะไม่มีการปรับลดพนักงานอย่างแน่นอน ส่วนการหากรรมการผู้จัดการคนใหม่แทนนายพีรศิลป์นั้น ในช่วงนี้จะให้นายชิน หยวน หยิน ตัวแทน CIMB ที่นั่งเป็นกรรมการ มารักษาการในตำแหน่งแทนไปก่อน คาดใช้เวลา 3-4 เดือนข้างหน้าจะได้ผู้ที่เหมาะสมมารับตำแหน่งต่อไป ซึ่งเป็นคนไทย