นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) หรือ เอไอเอส เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการทบทวนเป้าหมายรายได้ปี 51 จากเดิมที่ 5% เนื่องจากช่วงไตรมาส 4/51 มีสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อการเติบโตของธุรกิจ รวมถึงปัญหาการปิดสนามบินและปัญหาการเมืองทำให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
"เรายังไม่แน่ใจว่ารายได้ปีนี้จะเติบโตถึง 5% ตามการคาดการณ์หรือไม่ เนื่องจากไตรมาส 4 มีปัญหาหลายอย่างที่เราต้องมาทบทวน แต่เราก็หวังว่าจะมีการเติบโต"นายสมชัย กล่าว
สำหรับการลงทุนใน 3G ยังคงทยอยลงทุนต่อเนื่อง หลังจากทดลองเปิดให้บริการในพื้นที่จ.เชียงใหม่และบางจุดใจกลางกทม.แต่หากบมจ.ทีโอที ไม่ให้ลงทุนบนคลื่น 900MHz บริษัทก็จะต้องอาศัยคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กทช.) ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมเข้ามาตัดสินเรื่องนี้ เนื่องจาก กทช.เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด แต่ยืนยันว่ายังมั่นใจว่าไม่ได้รับผลกระทบจากทีโอที หากไม่ให้เราทำ 3G บนคลื่น 900MHz
นายสมชัย กล่าวว่า แนวโน้มธุรกิจให้บริการโทรศัพท์มือถือในปี 52 เชื่อว่าโอเปอเรเตอร์ทุกรายยังคงแข่งขันกันอย่างรุนแรง เนื่องจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคมยังถือว่าได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจชะลอตัวน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่น แต่การทำการตลาดจะไม่เน้นแข่งขันด้านราคา แต่จะเน้นการให้บริการและสิทธิพิเศษเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด และการเติบโตของฐานลูกค้าใหม่ก็ยังให้ความสำคัญ
"ปีหน้าทุกค่ายคงเน้นจะรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้และให้บริการที่หลากหลาย และเอไอเอสเองก็จะให้บริการที่หลากหลายและสิทธิประโยชน์ทุกกลุ่มเพิ่มมากขึ้น เพื่อรักษาฐานลูกค้าเอาไว้" นายสมชัย กล่าว
ส่วนการเติบโตของ ADVANC ในปี 52 ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากต้องรอดูว่าจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นเพื่อสร้างรายได้ อาทิ 3จี ,ไวแม็กซ์ เกิดขึ้นในปีหน้าหรือไม่
นายสมชัย กล่าวถึงกรณีที่ผลการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่มาจากพรรคประชาธิปัตย์นั้น เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อเอไอเอส และกลุ่มชิน(SHIN) เนื่องจากธุรกิจโทรคมนาคมเป็นอุตสาหกรรมหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น ฝ่ายการเมืองทุกฝ่ายน่าจะให้ความสำคัญอยู่แล้ว