นายศีลชัย เกียรติภาพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ปิโก้ (ไทยแลนด์) หรือ PICO คาดว่า กำไรในงวดปี 52 คงจะลดลงจากงวดปี 51(1 พ.ย.50-31 ต.ค.51) ที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 64 ล้านบาท เนื่องจากในช่วง 2 เดือนแรกที่ผ่านมาก็เห็นสัญญานการชะลอตัวของงานที่ได้รับ และอาจส่งผลต่อกำไรที่จะปรับลดลงเช่นเดียวกัน
ในงวดปี 52 (1พ.ย.51- 31ต.ค.52) บริษัทคงต้องปรับกลยุทธในการดำเนินงานเพื่อรองรับสถานการณ์ที่คาดว่าจะส่งผลกระทบแน่นอน โดยเฉพาะผลพวงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่จะเข้ามาเต็มรวมทั้งปัญหาภายในประเทศไทยที่เกิดจากปีนี้และลากยาวต่อเนื่องทำให้เกิดการชะลอลงของงานและผู้ให้งาน
นอกจากนี้ จากปัญหาที่เกิดขึ้นส่งผลบริษัทต้องชะลอการรับงานบางประเภทออกไปบ้างทั้งงานในประเทศและงานต่างประเทศ โดยเฉพาะงานการประชุมนานาชาติ(MICE)ที่ประเทศสิงค์โปร์ ยุโรป อเมริกา เพื่อใช้เวลาในระยะนี้ประเมิสถานการณ์การลงทุนให้รอบคอบในช่วง 6-9 เดือน จากขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้
แต่อย่างไรก็ตาม ในสถานการณ์ดังกล่าวบริษัทจะเลือกการลงทุนในโครงการที่สร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจ และหันไปประเทศใหม่ๆ อย่างประเทศตะวันออกกลาง ประเทศจีนที่ได้รับงานแล้ว อีกทั้งยังมีความต้องการสูงทั้งงานอีเว้นท์และ MICE
บริษัทยังได้วางแผนปรับกลยุทธการดำเนินงาน โดยการหันมาลดค่าใช้จ่ายลง 7-10% จากปีก่อนที่มี 168 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด และการหันมารับงานต้นน้ำ(งานรับทำเอง)มากขึ้น เพราะเป็นงานที่ใช้ระยะเวลานานสามารถทยอยรับรู้รายได้นานกว่างานปลายน้ำที่จะมีระยะสั้น ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับงานต้นน้ำในปีหน้าประมาณ 3 โครงการเฉลี่ยโครงการละประมาณ 200 ล้านบาทถึงแม้ปัจจุบันบริษัทจะมีงานในมือ(backlog)ประมาณ 108 ล้านบาททยอยรับรู้ตั้งแต่ต้นปี-กลางปี 52
"ในปี 52 เราคงประคับประคองตัวมากกว่าการที่จะลงทุนเพราะยอมรับว่าตอนนี้เราไม่รู้ว่าสถานการณ์จะไปอย่างไร แต่ผลกระทบที่ได้รับแน่นอนจากการการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก เราต้องเตรียมตัวและวางแผนให้พร้อม แต่ไม่ใช้เราไม่เน้นงานต่างประเทศยังคงทำแต่จะเลือกเฟ้นมากขึ้น ดีที่เรามีเครือข่ายในหลายประเทศจึงไม่ห่วงมาก"นายศีลชัย กล่าว