นายบุญชัย เกียรติธนาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต เปิดเผยว่า ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM)ที่ 1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 51 ที่คาดว่า AUM อยู่ที่ 8 หมื่นล้านบาท โดยจะมาจากกองทุนตราสารหนี้เป็นหลัก ส่วนกองทุนหุ้นคงจะมีการออกกองใหม่ และขยายกองทุนเดิมที่มีอยู่แล้วออกมาขาย
รวมทั้ง ในปีหน้าบริษัทจะให้ความสำคัญจากฐานลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก ที่มาจากสาขาของธนาคารธนชาต ที่มีกว่า 300 สาขา และในปัจจุบัน บริษัทมีสัดส่วนลูกค้ามาจากธนาคารถึง 70%
นอกจากนี้ ในปีหน้าบริษัทคาดว่าจะได้ใบอนุญาตซื้อขายในตลาดล่วงหน้า ซึ่งจะแป็นอีกช่องหนึ่งที่จะขยาย AUM ถึงแม้ปัจจุบัน การเพิ่มผลตอบแทนของตลาดล่วงหน้าจะน้อย เพราะตลาดแกว่งต้วอยู่ก็ตาม
ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ นายบุญชัยยอมรับว่า บริษัทยังสนใจ และเห็นว่าตลาดหุ้นสหรัฐ ก็ยังเป็นประเทศที่บริษัทจะพิจารณาถึงแม้ถาวะเศรษฐกิจสหรัฐจะไม่ดี แต่หากเข้าลงทุนจะเลือกเข้าลงทุนบริษัทขนาดใหญ่
นายบุญชัย กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงมาระดับต่ำสุดที่ 381 จุด ซึ่งบริษัทได้มีการทยอยสะสมหุ้นในกองทุนหุ้นประมาณ 10% ของพอร์ตลงทุนกองทุนหุ้นที่มีอยู่ ซึ่งตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างประเมินสถานการณ์ก่อนที่จะออกกองทุนหุ้นใหม่
"ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการประเมินสถานการณ์ภายในและภายนอกซึ่งเดิมเรามองว่า ดัชนีจะอยู่ที่ 450 จุดในปีหน้า แต่หลังจากนี้คงจะต้องมีการปรับเปลี่ยนใหม่ หลังจากที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เข้ามา ซึ่งน่าจะเป็นทิศทางที่ดี เพราะจะเห็นได้จากเมื่อนายอภิสิทธิ์ได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้สถานการณ์ความเชื่อมั่นดีขึ้นการลงทุนเริ่มกลับมาบ้าง แต่เราก็ยังคงเลือกลงทุนอย่างระมัดระวังในปีหน้า เหมือนกัน เพราะยอมรับว่าเราก็กังวลปัจจัยข้างนอกที่เราไม่รู้" นายบุญชัย กล่าว
กรรมการผู้จัดการ บลจ.ธนชาต มองว่า ปีหน้าถือเป็นปีที่ท้าทายของกองทุนรวม อยู่ที่ว่าใครจะหาโอกาสลงทุนใหม่ๆ ได้ก่อนกัน โดยปีหน้าคงจะเห็นกองทุนตราสารหนี้โดดเด่น และกองทุนรวมตลาดเงิน หากผลตอบแทนของกองทุนรวมยังสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ก็มีโอกาสที่จะไหลเข้ามากองทุนรวม แต่หากผลตอบแทนอยู่ระดับใกล้เคียงคาดว่า เม็ดเงินจะไหลเข้าธนาคารพาณิชย์ ทั้งนี้ คาดว่าดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้าคงลดลงในช่วงกลางปีมาอยู่ระดับ 2.00% จากปัจจุบันที่ 2.75%
ทั้งนี้ กองทุนตราสารหนี้ภายใต้การบริหารของบลจ.ธนชาต ได้ผลตอบแทน 7-11% ในขณะนี้ ซึ่งดีกว่าผลตอบแทนในตลาดตราสารหนี้