นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีเอ็ม ออร์กาไนเซอร์(CMO) เปิดเผยว่า บริษัทได้รับผลกระทบจากการปิดสนามบินในช่วงไตรมาส 4 /51 ทำให้มีการเลื่อนการจัดงานรวมทั้งการยกเลิกจัดงานไปประมาณ 40 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามสำหรับงานอาเซียนซัมมิทที่เลื่อนไปในจัดในเดือนก.พ. 52 นั้นได้รับผลกระทบบ้างจากการเลื่อนงานออกไป แต่ก็ยังมีรายได้ในส่วนนี้เข้ามาในไตรมาส 1 ปี 52 ทำให้ปีนี้รายได้จะอยู่ที่ประมาณ 700 ล้านบาทต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่วางไว้ 750 ล้านบาท
ส่วนในปีหน้าคาดว่าจะมีรายได้ 800 ล้านบาท หรือเติบโตจากปีนี้ประมาณ 10% ทั้งนี้ในปีหน้ายังคงเน้นงานด้านอีเวนท์ของภาครัฐ โดยจะเข้าประมูลงานต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่าภาครัฐจะเร่งใช้จ่ายงบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นของประชาชนโดยเฉพาะงานทางด้านการท่องเที่ยว
อีกทั้ง บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ประมาณ 300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 52 และ 53 ทั้งนี้ บริษัทพยายามจะรักษาสัดส่วนให้อยู่ระดับ 300 ล้านบาท หรืออย่างน้อยประมาณ 35% ของรายได้ปี 52 ที่ 800 ล้านบาท โดย Backlog ส่วนใหญ่เป็นงานประมูลจัดนิทรรศการในต่างประเทศ
นายเสริมคุณ กล่าวว่า สัดส่วนงานภาครัฐในปีหน้าจะเพิ่มมาเป็น 50% จากปีนี้ที่ 40% ส่วนงานภาคเอกชนจะเหลือ 50% จากปีนี้ 60% เนื่องจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในปีหน้าจะส่งผลต่อสินค้าบางประเภทที่จะตัดงบด้านโฆษณาและประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะธุรกิจประกันภัย ส่วนรถยนต์มองว่าแม้ผู้ผลิตจะได้รับผลกระทบแต่เชื่อว่ายังคงมีงานอีเวนท์เพื่อผลักดันยอดขายและรถรุ่นใหม่ออกมา
นอกจากนี้ CMO ยังรุกงานต่างประเทศโดยเน้นแถบอาเซียน จีน อินเดีย โดยขณะนี้ได้เข้าประมูลงาน World Expo ที่เซียงไฮ้ ในปี 2553 มูลค่างานประมาณ 600 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ โดยมีผู้เข้าร่วมประมูล 4 ราย ซึ่งเป็นรายใหญ่ของไทย
"บริษัทมีความมั่นใจเกินกว่า 50% ว่าจะได้งานนี้ เนื่องจากมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับภาครัฐในการจัดศาลาไทยในงาน Expo ที่ประเทศสเปนมาแล้ว" นายเสริมคุณ กล่าว
รวมทั้งยังมีรายได้ในการจัดนิทรรรศการที่ อังกอร์ เนชั่นแนล มิวเซียมที่เสียมเรียบ กัมพูชา
นายเสริมคุณ กล่าวต่อว่า ปีหน้าหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กรเป็น 6 หน่วยธุรกิจแล้ว เชื่อว่าจะทำให้การทำงานมีความคล่องตัวและสามารถเข้าประมูลงานตามรูปแบบของแต่ละหน่วยงานที่ถนัดได้เพิ่มมากขึ้น และจะมีการรุกในธุรกิจใหม่ อาทิ การจัดคอนเสิร์ตทั้งในและต่างประเทศ โดยจะเห็นคอนเสิร์ตใหญ่ตั้งแต่ต้นปี 52 โดยประเมินว่าทั้งปีจะได้เห็น 4-5 คอนเสิร์ต
นายเสริมคุณ ยังกล่าวถึงปัญหาการเมืองว่า เป็นปัญหาใหญ่สำหรับไทยในปี 52 เพราะหากไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนและภาคธุรกิจกลับมาได้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม และจะยิ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจอีเวนท์ ซึ่งคาดว่าอาจจะโตไม่ถึง 10%จากปีนี้ที่ภาพรวมอีเวนท์อยู่ที่ 1.4 หมื่นล้านบาท
"หากภาครัฐมีความมั่นคงจะช่วยผลักดันธุรกิจอีเวนท์ได้ โดย CMO หวังว่าอีเวนท์ภาครัฐจะเติบโตได้ถึง 15-20% จึงอยากขอให้รัฐบาลใหม่มีเสถียรภาพ" นายเสริมคุณกล่าวทิ้งท้าย