ขณะเดียวกันก็ได้มีหนังสือถึงกรรมการและกรรมการตรวจสอบแต่ละราย กำชับว่าหากไม่ดูแลให้ SECC ดำเนินการตามที่สำนักงาน ก.ล.ต. สั่งการ กรรมการแต่ละรายจะมีความรับผิดด้วย "ในตอนนี้การตรวจสอบในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ SECC นั้น มีความคืบหน้าเป็นอย่างมากซึ่งคาดว่าจะสามารถสรุปผลการตรวจสอบและทยอยดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำผิดได้ในไม่ช้า" นายธีระชัย ภูวนารถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าว
ทั้งนี้ ประเด็นเรื่องใบหุ้นปลอมนั้น เกิดขึ้นเนื่องจากกฎหมายในปัจจุบันไม่บังคับว่าหุ้นของบริษัทจดทะเบียนทุกแห่งต้องเข้าสู่ระบบ scriptless ผู้ถือหุ้นที่ต้องการโกงจึงมีการทำใบหุ้นปลอมขึ้นเพื่อหาประโยชน์ และจะตรวจพบก็ต่อเมื่อมีการนำใบหุ้นปลอมดังกล่าวไปฝากในระบบของศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (TSD)
ปัญหาเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องเร่งแก้ไข โดยปัจจุบันสำนักงาน ก.ล.ต. และ TSD อยู่ระหว่างศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหา ซึ่งแนวทางหนึ่งที่อาจทำได้คือ การบังคับให้หุ้นของบริษัทจดทะเบียนต้องใช้ระบบ scriptless แต่ก็ต้องคำนึงถึงผลกระทบในด้านต่างๆ ให้รอบคอบด้วย
นายธีระชัย กล่าวว่า สำหรับกรณีที่สำนักงาน ก.ล.ต. สั่งการให้ SECC ทำการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) นั้น เพื่อให้ SECC เร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.51 สำนักงาน ก.ล.ต. ได้มีหนังสือถึงกรรมการและกรรมการตรวจสอบของ SECC แต่ละราย เพื่อกำชับให้ดูแลให้ SECC เร่งดำเนินการตามคำสั่งการของสำนักงาน ก.ล.ต. ไม่เช่นนั้น กรรมการแต่ละรายจะถือว่า ฝ่าฝืนมาตรา 58(3) ซึ่งมีโทษทางอาญาตามมาตรา 274 และมาตรา 300 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ด้วย